Suzuki Swift & Celerio รถที่ถูก และดีมีอยู่จริง

Share on facebook
Share on twitter

รถยนต์ใหม่ในปัจจุบัน ราคาทยอยขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าราคาสูงพอสมควร หากใครกำลังมองหารถคันแรก ที่เน้นความคุ้มค่า วันนี้ผมจะพาไปรีวิวรถ 2 คัน อย่าง Suzuki Swift และ Suzuki Celerio ที่ราคาใช้ได้มากเลยครับ

Suzuki Swift มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น GL ราคา 567,000 บาท รุ่น GL NEXT ราคา 582,000 บาท และ รุ่นท็อป คันนี้ GLX ราคา 637,000 บาท ส่วน Suzuki Celerio มี ให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น GA/MT ราคา 338,000 บาท เป็นเกียร์ธรรมดา ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ รุ่น GL/CVT ราคา 416,000 บาท รุ่น GL UP ราคา 423,000 บาท และรุ่นท็อป GX/CVT ราคา 451,000 บาท

Swift และ Celerio มีขนาดใกล้เคียงกัน รูปทรงกะทัดรัด เหมาะกับการขับในเมือง Swift โดยรวมขนาดใหญ่กว่า Celerio แน่นอน คือ Swift ทรงจะ อวบๆ น่ารักๆ ส่วน Celerio จะเป็นแบบทรงสี่เหลี่ยม เหมือนทรงกล่อง ถึงแม้จะมีขนาดต่างกัน แต่ถ้ามองถึงการใช้งาน ของทั้งคู่ไมว่าจะเป็น การขับขี่ ทางแคบ ยิ่งไปกว่านั้น หากสนใจชุดแต่งของรถทั้ง 2 คันนี้ สามารถแต่งรถได้แบบสบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการรับประกัน เพราะมีชุดแต่งของ Suzuki โดยตรงอีกด้วย

ดีไซน์ภายนอก ทั้ง 2 คัน กระจังหน้าจะแตกต่างกัน Swift ทรงสปอร์ต คาดด้วยแถบโครเมียม ทำให้ดูมีมิติ และมีไฟตัดหมอกด้านล่าง ส่วน Celerio ดูเรียบๆ แต่ก็มีลูกเล่น ด้วยแถบโครเมียม 2 เส้น ส่วนไฟหน้าจะคล้ายกัน Swift มีไฟมาให้ครบ ไฟหน้าเป็นแบบ Projector LED มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟหรี่ LED ไฟตัดหมอกก็มีให้ ไฟท้ายก็เป็นแบบ LED ส่วน Celerio มีไฟหน้าแบบ Halogen และไฟดวงอื่นๆ เป็นหลอดไส้ ส่วนไฟตัดหมอกนั้นไม่มีมาให้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบในเรื่องราคาแล้วก็ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนี้

ด้านท้าย ของรถทั้ง 2 คัน เป็นรถเพื่อการใช้งาน มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ไฟดวงที่สามก็มีมาให้ทั้งคู่ จุดสำคัญ ที่สุดคือพื้นที่เก็บของด้านท้ายมีความลึกลงมา ทำให้เก็บกระเป๋าเดินทางได้พอสมควร แต่หากต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น สามารถปรับเบาะแถวหลังเพื่อเพิ่มขนาดในการเก็บของได้อีก ซึ่งด้านคุณภาพวัสดุ Swift สัมผัสได้ว่าโอเคมากกว่า ส่วน Celerio นั้นจะมียางอะไหล่มาให้ด้วย Swift จะเป็นชุดปะยางฉุกเฉินแทน กุญแจ ของ Swift จะเป็นแบบรีโมท แต่ Celerio เป็นทรงกุญแจทั่วไป และมีปุ่มปลดล็อกที่ดอกกุญแจ มาดูเรื่องความสูงใต้ท้องรถของ Celerio มีความสูง 145 มิลลิเมตร สูงกว่า Swift ที่มีความสูง 120 มิลลิเมตร ซึ่งทั้ง 2 คันมาพร้อมยางบริดจสโตน Celerio มีล้อและยางขนาด 165/65 R14 ส่วน Swift มีล้อและยางขนาด 185/55 R16

ด้านข้าง สิ่งที่น่าสนใจคือ องศาการเปิดประตู Celerio เปิดประตูได้กว้างมาก ประตูด้านหลังเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศาทีเดียว ส่วน Swift ก็เปิดได้กว้างเหมือนกัน ส่วนประตูด้านหน้าเปิดได้กว้างพอๆ กัน

มุมมองภายในของ Swift การออกแบบโดยรวมเป็นโทนสีดำตัดกับสีเงิน เน้นการใช้งานเป็นหลัก เบาะนั่งสบาย ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแบบปรับไฟฟ้าก็ตาม ด้านหน้าจอมีขนาดใหญ่ สามารถเชื่อมต่อ Android Auto, Apple CarPlay และยังมีกล้องถอยหลังด้วย ซึ่งตำแหน่งที่มองเห็นนั้นอาจจะอยู่ต่ำทำให้ยังไม่ชินครับ และมีปุ่มควบคุมแอร์อยู่ด้านล่างถัดมาจากจอครับ สำหรับพวงมาลัยสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง และมีระบบควบคุม ครูส คอนโทรล ด้านขวา ด้านซ้ายควบคุมหน้าจอ และสามารถเชื่อมต่อบลูทูธ โทรศัพท์ อีกด้วย หน้าปัดแสดงผลการขับขี่ทั่วไป มีปุ่ม Push Start อยู่ฝั่งขวา ส่วนคอนโซนกลางมีช่องวางแก้ว 2 ช่อง และช่องวางของ รวมถึงมีช่อง USB และมีช่องเสียบไฟ 12V คันเกียร์ไม่สูงเกินไป มองด้านบนมีที่บังแดด ไฟห้องโดยสาร และกระจกมองหลังทั่วไป

ภายในของ Celerio โทนการออกแบบ คล้ายกับ Swift เป็นสีดำตัดกับสีเทาเข้ม มีลูกเล่นน่ารักเป็นลายจุดรอบแผงประตู เฉพาะด้านหน้า เท่านั้น มีสีสัน ดูน่ารัก ส่วนออฟชั่นการใช้งาน โดยรวมจะนึกถึงรถคลาสสิค คาร์ หรือรถสมัยปี 2000 ต้นๆ จะเป็นแบบนี้ คอนโซนกลางมีที่วางอย่างโทรศัพท์ กระเป๋า มีช่องจ่ายไฟ 12V ถัดจากคันเกียร์ มีช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ การออกแบบโอเค รู้สึกมีพื้นที่โปร่งโล่ง สบายๆ เลยครับ ส่วนฝั่งขวาของพวงมาลัย มีช่องเก็บของค่อนข้างลึก วางเหรียญ หรือใส่กระดาษทิชชู ตรงนี้ก็ได้ ด้านบนมีที่บังแดดและมีกระจกฝั่งคนขับ ไฟห้องโดยสาร และกระจกมองหลังทั่วไป

เบาะแถวที่ 2 ของ Swift วัสดุเหมือนด้านหน้า พื้นที่ช่วงขาโอเคเลย ส่วนพื้นที่เหนือศรีษะ ชิดอยู่ แต่ยังนั่งสบาย เบาะกลางสามารถนั่งได้ แต่แนะนำว่าถ้านั่งหลัง 3 คน อาจจะขับในเมืองเป็นหลัก ถ้าเดินทางไกลจะ เบียดหน่อยครับ นอกเหนือจากนี้ จะมีช่องเก็บของหลังเบาะหน้าซ้าย และมีที่วางแก้วหลังคอนโซนกลาง ซึ่งใช้งานรถแบบนี้มักจะใช้งานแถวหน้าเป็นหลัก ส่วนด้านหลังอาจจะนั่งบ้าง หรือเป็นที่วางของมากกว่า แต่ถ้าจะใช้งานเป็นรถครอบครัว นั่งกัน 4-5 คน บ่อยๆ อาจจต้องมาทดลองกันอีกทีครับ

เบาะแถวที่ 2 ของ Celerio พื้นที่โอเคเลยนะ เบาะนั่งสบายพอกับ Swift นั่งตรงกลางขาอาจจะชิดนิดนึง หลังเบาะหน้าจะไม่มีช่องเก็บของ ส่วนช่องหลังคอนโซนกลางมีขนาดใหญ่สามารถใส่กระติกใหญ่ๆ ได้เลย ความสบายอยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่ได้สบายที่สุด แต่ก็ไม่ได้แย่ครับ

ทดลองขับ Suzuki Swift การขับขี่คล่องตัว ตอบโจทย์สำหรับการขับในเมืองมากๆ ขับในพื้นที่ไม่กว้าง ซึ่งเป็นรถที่เน้นใช้งาน พร้อมความคุ้มค่า เมื่อลองขับบนทางด่วน อัตราเร่งทำได้สบายๆ ไม่ต้องรอรอบ เร่งความเร็วจาก 60-120 ได้สบาย เบรกนุ่ม ไม่ต้องเหยียบลึก จังหวะบังคับเลี้ยวควบคุมได้มั่นใจ การเก็บเสียงอยู่ระดับกลาง มีเสียงรบกวนเข้ามาบ้าง ซึ่งงบประมาณขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่า ขับดี ใช้ได้ ครับ ออฟชั่นที่ให้มาก็ใช้ได้ เมื่อลงจากทางด่วนแล้ว ฟิลลิ่ง การทำความเร็วโอเคอยู่ เร่งจาก 60-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ก็ไปได้สบายๆ เข้าโค้งควบคุมได้ดีเลย ส่วนตัวรู้สึก ว่ามัน คล่อง มากเลย ผมชอบนะครับ

Suzuki Celerio ลองขับบนทางด่วน สมรรถนะในการขับขี่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เมื่อเหยียบอย่างเช่น ความเร็ว 70 กิโลเมตร / ชั่วโมง เร่งได้ แต่ไม่ได้แรงมากนัก ใช้เวลานิดนึง แต่ด้วยสเป็กของรถที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ขับในความเร็วสูงๆ ซึ่งหากจะไปเปรียบเทียบกับ Swift ที่วิ่งด้วยความเร็วที่เท่ากัน Celerio ก็เร่งไปถึงได้ แต่ถ้าจะขับแบบมั่นใจ คงอยู่ที่ความเร็ว 80 กิโลเมตร / ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเร่งความเร็วแบบคิกดาว์นไปถึง 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง เสียงเครื่องยนต์จะดังพอสมควร และรอบเครื่องยนต์จะขยับไปถึง 5-6 พันรอบต่อนาทีเลยครับ แต่หากเลี้ยงรอบเครื่องยนต์จะสามารถทำความเร็วที่ 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่ 3 พันรอบต่อนาทีได้เหมือนกัน ส่วนการเก็บเสียงนั่นมีเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสารพอสมควรเลย ซึ่งด้วยราคาประมาณ 4 แสนบาทแล้ว ถือว่าใช้ได้เลยครับ การควบคุมพวงมาลัย หากขับไม่เกิน 110 กิโลเมตร / ชั่วโมง สามารถบังคับเข้าโค้งเลี้ยงได้ปกติ แต่หากความเร็วสูง ก็ควรลดความเร็วก่อนเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย ระบบเบรกก็ใช้ได้ ไม่ต้องเหยียบลึกมากใกล้เคียงกับ Swift ส่วนฟิลลิ่งการขับเมื่อลงจากทางด่วน ที่มีรถมากกว่าทางด่วน ก็จะตอบโจทย์ เพราะเน้นการขับเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ กับรถคันนี้ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการถในงบประมาณที่จำกัด

*สามารถชมคลิปรีวิวฉบับเต็มได้ที่ Link ด้านล่างนี้เลยครับ