หากคุณกำลังมองหารถยนต์ Mercedes-Benz กลุ่ม SUV ราคาไม่สูงนัก ออฟชั่นโดยรวมพอใจ GLA 200 AMG DYNAMIC คันนี้ถือว่าตอบโจทย์เลย คันนี้มีออฟชั่นและฟีเจอร์ ที่เพิ่มเติมเข้าไปด้วย บัมเปอร์ด้านหน้าซ้ายขวาเป็นดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า LED High Performance และมีระบบ Adaptive High Beam Assist ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนจากเดิมสีเทาเป็นสีดำ มาพร้อมยางขนาด 235/50 R19 ซุ้มล้อสีเดียวกับบอดี้ ซึ่งส่วนตัวผมชอบมากๆ เลยครับ
ประตูด้านหน้า และด้านหลัง สามารถเปิดเข้าห้องโดยสารได้ด้วย Keyless Entry แต่จะต้องพกรีโมทอยู่ด้วยนะครับ ส่วนองศาการเปิดประตู ด้านหน้าเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศา ด้านหลังเปิดได้กว้างพอสมควร สำหรับความสูงที่จะก้าวเข้าไปตัวรถ ถือว่าสบายๆ ซึ่งอยากให้มาลองดูกันคันจริงกันก่อน จะได้พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าชอบหรือว่าไม่ชอบครับ
ด้านท้ายมีที่ปัดน้ำฝนหลังให้ด้วย และด้านท้ายเปิดแบบไฟฟ้า มีพื้นที่เก็บของ สามารถใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ แต่หากพื้นที่ไม่พอสามารถเอาที่บังสัมภาระด้านบนออกได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ ส่วนเบาะแถวสองสามรถพับ ปรับเป็นพื้นที่เพิ่มเติม
ภายในแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่ ดูสวยขึ้น เข้ม เท่ มากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นสีดำเข้ากับด้านหน้า ประตูด้านข้างจะมีลายเหมือนด้านหน้า เป็นการออกแบบภายใต้ AMG ที่สวยเลย ส่วนตัวผมชอบนะ ระบบตรงหน้าจอ ถูกอัพเกรดเป็น MBUX 7 ซึ่งสามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยได้ แต่ต้องปรับหน้าจอให้เป็นภาษาไทยด้วยครับ
อีกจุดหนึ่งที่เพิ่มมาคือ พาโนรามิคซันรูฟ แบ่งเป็นสองโซน ด้านหน้าสามารถเปิดออกได้ทั้งม่าน และเลื่อนไปด้านหลัง แต่ส่วนด้านหลังจะเปิดได้เฉพาะม่านครับ แอร์ด้านหน้าจะเป็นแบบดูโอ้โซน ควบคุมอุณหภูมิได้ทั้งซ้ายขวา และควบคุมแอร์หลังที่มีมาให้ด้วยครับ
รถคันนี้สามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไรสายได้แล้วนะครับ สามารถใช้งานได้ค่อนข้างเร็ว ทั้งแผนที่ โทรศัพท์ วิทยุ ฟังเพลง เป็นต้น ซึ่งหน้าจอกลางสามารถเข้าไปตั้งค่าข้อมูลต่างๆ อาทิ แอป เบาะนั่ง ข้อมูลสถานการขับขี่ ระบบช่วยเหลือ ไฟส่องสว่าง และหากต้องการดูกล้อง สามารถเปิดดูได้ ซึ่งภาพที่เห็นก็ชัดพอสมควร สามารถปรับมุมมองให้กว้างมากขึ้นได้เต็มหน้าจอ อีกทั้ง หน้าจอยังมีสัญลักษณ์เซ็นเซอร์เตือนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้สัญญาณ ทั้งสี และเสียง อีกด้วย พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 แล้ว ด้านขวาพวงมาลัยควบคุมหน้าจอคนขับ ด้านซ้ายควบคุมหน้าจอเอนเตอร์เทนเมนท์ครับ ปุ่มต่างๆ ควบคุมด้วยการสไลด์ได้อย่างง่ายดาย
เบาะนั่งด้านหน้ากว้างขวางใหญ่พอสมควร แต่เบาะแถวหลัง ฟิลลิ่งจะแตกต่าง ใหญ่ไม่เท่ากับด้านหน้า แต่ ก็มีพื้นที่เหลือเฟือรู้สึกสบาย และระดับเบาะนั่งด้านหลังก็เท่ากับด้านหน้า บาะหลังรุ่นนี้ไม่มีช่องพับลงมาเป็นที่วางแก้วได้ ได้แต่พับเบาะมาเพื่อหยิบของจากด้านหลังได้เท่านั้นครับ ส่วนบริเวณช่องแอร์หลังมี USB C 2 ช่อง และช่องเก็บของเล็กๆ ครับ
เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร 4 สูบ 163 แรงม้า 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร 1,620-4,000 รอบต่อนาที 0-100 ใช้เวลา 8.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถเติมน้ำมัน E85 และคันนี้ยังมีระบบ Active Brake Assist, Blind Spot Assist, Exit Warning Function, Active Park Assist, Attention Assist เป็นต้น
การทดลองขับ
Mercedes-Benz GLA 200 AMG DYNAMIC เส้นทางที่ผมใช้ กรุงเทพฯ บางนา กิโลเมตรที่ 30 ไปจังหวัดระยอง การขับขี่โดยรวม เหมือน GLA รุ่นก่อนเป๊ะเลย อัตราการเร่งถือว่าโอเค แต่ถ้าต้องการรถที่แรงมากๆ จะไม่ได้ตอบโจทย์ รถ SUV เน้นเป็นรถครอบครัว อาจจะไม่เน้นแบบสปอร์ตเหมือนรถแบบคูเป้ หรือว่าสีดานสักเท่าไร การขับขี่มีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Comfort, ECO และ Sport
โหมด Comfort ที่ขับอยู่บนทางด่วน เมื่อเลี้ยงความเร็วในระดับสูง ถ้าอยากเร่งความเร็วก็สามารถคิกดาวน์ได้ รอบก็มาเร็วตอบสนองได้ทันใจ แต่ถ้าขับในความเร็วไม่สูง ประมาณ 40-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากจะเพิ่มความเร็วเร่งแซงคิกดาวน์จะใช้เวลานิดนึง ซึ่งจะเห็นผลที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อไปขับในเมืองรถติดหน่อย อาจจะขับไม่เนียน
ส่วนการขับโหมด ECO จะแนะนำให้ขับอยู่ในเมืองเพราะว่าจะไม่แรงเท่าโหมด Comfort แต่การเติมความเร็วนิดๆ หน่อยๆ ในเมืองกำลังพอดี หรือจะขับทางไกลด้วยความเร็วคงที่โหมด ECO ก็ทำได้ดีในเรื่องการประหยัดน้ำมัน แต่ไม่เหมาะกับการเร่งแซงที่ต้องการความแรงนั้นต้องรอจังหวะบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ส่วนโหมด Sport คือของจริง การตอบสนองความเร็วมาทันใจ อย่างเช่นขับที่ความเร็วประมาณ 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหยียบปุ๊บ ความเร็วมาเลยครับ สัมผัสได้เลยว่าเร็วกว่าโหมด Comfort และ ECO แน่ๆ อยู่แล้ว เวลาอยากจะมุด อยากจะแซง ต้องการทำความเร็วถือว่าโอเค แต่ก็จะกินน้ำมันพอควรเมื่อขับด้วยความเร็วสูง
ภาพรวม Mercedes-Benz GLA 200 AMG DYNAMIC เมื่อมองเรื่องประสิทธิภาพในการขับขี่ อัตราการเร่ง ประกอบกับหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น ขนาดของตัวรถ ออฟชั่นการใช้งาน ฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นต่างๆ โดยรวมสำหรับผมถือว่าโอเคครับ
ผมชอบพวงมาลัย สัมผัสนุ่ม กริปที่พวงมาลัย ขนาดพอเหมาะจับถนัดมือ ความคุมการขับขี่ได้สบาย และสามารถปรับแบบแมนนวลได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา หากเปรียบเทียบกับขนาดพวงมาลัยของ BMW จะมีขนาดเล็กกว่า พลิ้วกว่า ซึ่งอยู่ที่ความชอบ แตกต่างกันออกไป
เบาะนั่งเป็นแบบปรับไฟฟ้า คู่หน้า มีเมมโมรี่มาให้ 3 แบบ นั่งขับได้สบาย คนตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็นั่งสบาย แต่จะไม่กระชับ ไม่ล็อกเมื่อขับเข้าโค้ง อาจจะมีไหลๆ บ้างเล็กน้อย ซึ่งขับมาด้วยระยะเวลากว่า 1.30 ชั่วโมง ยังนั่งขับได้สบายๆ เบาะคู่หน้าให้ความรู้สึกกว้างขวางในส่วนคนขับ แต่หากมีคนนั่งคู่หน้าด้วย ก็จะดูไม่โล่งเหมือนขับคนเดียว มุมมองทัศนวิสัยด้านหน้ากว้างทีเดียว รวมถึงกระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง ถือว่าโอเคครับ
