MAZDA 2 PLATINUM QUARTZ (Model Year 2022) เพิ่มสีใหม่ ดูสวยและหรูหรามากกว่าเดิม 

Share on facebook
Share on twitter

MAZDA 2 ถือเป็นกลุ่มรถอีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของบ้านเรา เป็นรถที่ขายดี เป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปีทีเดียว ล่าสุดได้พัฒนาปรับปรุงใหม่โดยเฉพาะตัวบอดี้มีสีใหม่ให้เลือกคือสี Platinum Quartz ที่ดูสวยและหรูหรามากกว่าเดิม

สีใหม่นี้จะมีให้เลือกในทุกรุ่นทั้ง 4 ประตู Sedan และ 5 ประตู Hatchback
ดีไซน์สำหรับ MAZDA 2 คันนี้ยังคงเดิม คือมีเอกลักษณ์โดดเด่นเรื่องความหรูหรา พรีเมี่ยม ซึ่งสีใหม่Platinum Quartz ล่าสุดนี้ถ้ามองจากด้านข้างจะเป็นจุดหลักที่สะท้อนความสวยงามหรูหราทีเดียว

ด้านภายในตัวรถ การออกแบบก็ยังคงเดิม สวยดูดี เบาะคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง บันทึกตำแหน่งผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง โซนของห้องโดยสารด้านหน้าค่อนข้างกว้างขวางในรถระดับเดียวกัน คอนโซลสีดำเข้ากับสีเบาะแต่รุ่นนี้จะมีสีขาวให้เลือกอีกสีนึง

พื้นที่ด้านหลังถือว่าไม่กว้างนักแต่ก้อไม่ได้แคบ ถ้าจะเดินทางไกลๆและไปหลายคนควรที่จะต้องวางแผนก่อนการเดินทาง ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายใหญ่กว้างขวางใช้ได้ สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ 1 ใบสบายๆ แต่ถ้าหากจะเพิ่มความจุในการใช้สอยสามารถพับเบาะแถวหลังลงได้อีก

จุด Highlight ของคันนี้อีกอย่างคือระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ที่เป็น Wireless การใช้งานจะต้องเสียบสาย USB ต่อเข้าไปกับเครื่องเล่นก่อน เครื่องเล่นจะถามผู้ขับขี่ว่าจะใช้งานด้วย Wireless หรือไม่ ให้กดเพื่อเชื่อมต่อถึงจะใช้แบบ Wireless ได้

Mazda 2 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์คือเบนซิน SKYACTIV-G 1.3 ลิตร 93 แรงม้า และ SKYACTIV-D 1.5 ลิตร 106 แรงม้า อัตราการสิ้นเปลือง 26.3 กม./ลิตร (ตัวเลขจากมาสด้า)

อันที่จริงแล้วมาสด้า 2 นี้ได้ลองขับกันมาหลายครั้งหลายหนแล้ว จัดว่าเป็นรถที่เหมาะมากสำหรับใช้ในเมือง เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ๆ เป็นรถที่ใช้ดี คล่องตัวและประหยัด ระบบควบคุมต่างๆ เช่น ฟังเพลง การเชื่อมต่อโทรศัพท์ กล้องมองนอกรถ หรือ ระบบ Blind Spot เป็นต้น สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งอำนวยความสะดวกและปลอดภัย

พื้นที่ด้านหน้าถือว่ากว้าง Headroom มีพื้นที่เหลือเฟือ ทัศนะวิสัยในการขับขี่ถือว่าดีเช่นกัน ไม่รู้สึกเบียดหรือแคบเลย

เริ่มทดลองขับขี่ในเมืองด้วยอัตราการเร่งในความเร็วเริ่มต้นประมาณ 0-40 กม./ชม. Mazda 2 เป็นรถที่ขนาดกะทัดรัด ขับสบาย สมรรถนะการเกาะถนนดี ขับเปลี่ยนเลนส์ซ้าย-ขวา ได้คล่องตัว ขับสนุกตอบสนองได้ดี

แม้กดคันเร่งจาก 50 กม./ชม. ลากขึ้นไปเรื่อยๆรอบในการเปลี่ยนเกียร์ยังไปเนียนๆ ไม่มีสะดุดแต่อาจจะมีเสียงเครื่องยนต์และเสียงลมจากด้านนอกเข้ามารบกวนบ้าง

แต่ถ้าเร่งเครื่องการขับขี่ความเร็วที่ 80 กม./ชม. ขึ้นไป เสียงเครื่องยนต์จะไม่ค่อยเข้ามารบกวนให้ได้ยินจะได้ยินเสียงลมปะทะมากกว่าโดยเฉพาะขับอยู่บนทางด่วนเพราะอยู่สูงกว่าระดับพื้นถนนปกติ

การเกาะถนน การเข้าโค้งต่างๆ Mazda 2 ยังโอเค ทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิม ความเร็วเกิน 80 ไป 100ต้นๆ ไม่มีปัญหา ไม่หงุดหงิด สบายๆมั่นใจได้ในรถระดับนี้

อีกอย่างคือเรื่องของระบบความปลอดภัย ในขณะที่ขับขี่รถบนท้องถนน Blind Spot จะทำงานเมื่อมีรถขับเข้ามาอยู่ในจุดอับสายตา ระบบจะเตือนเป็นสัญลักษณ์สีส้มและมีเสียงเตือนขึ้นมาให้คนขับรู้ตัวว่าอาจจะไม่ปลอดภัยแล้วนะ เราต้องระวัง เป็นระบบที่ Mazda 2 เขามีมาให้ ขณะที่แบรนด์อื่นๆยังไม่ค่อยกล้าเติม

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองที่ได้ทดลองขับมาหลายๆวันคราวนี้ จะได้ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 17.2 กม. / ลิตร ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้ครับ

ถ้าจะเปรียบเทียบ Mazda 2 กับรถยนต์ในรุ่นที่ใกล้เคียงกันอย่าง Toyota Yaris สำหรับผม Mazda 2 น่าตอบโจทย์ได้ดีกว่าในเรื่องของความแรง ความแกร่ง ความสนุก ขณะที่ Yaris เขาดูหวานๆ ขับสนุกไม่โลดโผนมาก ออปชั่นมาพอตัว

แต่ถ้า Mazda 2 มาเทียบกับ Honda City แล้ว หลายๆเรื่องจะใกล้ๆเคียงกันครับทั้งสมรรถนะ ออปชั่นต่างๆ ความสนุกในการขับขี่

นอกจากนี้แล้วรุ่นที่ใกล้เคียงกันก็จะมี Suzuki Ciaz, Suzuki Swift, Mitsubishi Attage, Mitsubishi Mirage และ MG 5 ที่เป็นคู่แข่งในตลาดอีโคคาร์ขายเบียดๆกันมาที่สนนราคาจับต้องได้ไม่ยาก

สำหรับราคาจำหน่ายของ Mazda 2 ปี 2022 มีตามนี้
เครื่องยนต์เบนซิน 1.3
รุ่น 1.3 E ราคา 546,000 บาท
รุ่น 1.3 C ราคา 599,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 3,000)
รุ่น 1.3 S LEATHER ราคา 659,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000)
รุ่น 1.3 SP ราคา 690,000 บาท

เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.5
รุ่น 1.5 XDL ราคา 799,000 บาท