Search
Close this search box.

Toyota อัพเกรด Prius Gen5 สุดล้ำยุค ทั้ง Hybrid-PHEV เปิดตัวขายปลายปีนี้ หลังคาโซลาร์  ปลั๊กอินมาต้นปี 

Toyota Prius 2023 Gen 5 ออกแบบใหม่สุดล้ำยุค มีทั้งมาพร้อมขุมพลัง PHEV 223 แรงม้า และไฮบริดใหม่ 2.0 ลิตร พละกำลัง 193 แรงม้า เปิดขายฤดูหนาวปลายปีนี้รุ่นไฮบริด ส่วนต้นปีหน้า จะเปิดตัวรุ่น PHEV วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้า ได้ไกลถึง 94.15 กม.

Toyota City ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว All-new Prius เป็นครั้งแรกทั่วโลก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ในรุ่น Series Parallel Hybrid (HEV) ที่จะเปิดตัวในช่วงฤดูหนาวปีนี้ และรุ่น Plug-in Hybrid (PHEV) ที่จะเปิดตัวใน ฤดูใบไม้ผลิ 2023 ด้วยสโลแกน "ทันเวลาพอดีสำหรับศตวรรษที่ 21"

📕📕 Prius เปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 ในฐานะรถยนต์ไฮบริด ที่มียอดผลิตจำนวนมาก คันแรกของโลก เจเนอเรชันที่ 2 ของรถรุ่นนี้ เปิดตัวรูปทรงโมโนฟอร์ม อันโดดเด่นของ Prius เป็นครั้งแรก ใช้เชื้อเพลิงที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการรวมระบบ Series Parallel Hybrid System (THSII) ที่พัฒนาขึ้น Prius เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวเครื่องยนต์ความจุ 1.8 ลิตรที่ใหญ่ขึ้น และระบบไฮบริดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมเพิ่มสมรรถนะการขับขี่อีกด้วย ในเจเนอเรชั่นที่ 4 Prius ใช้แพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA) เป็นครั้งแรกเพื่อมอบประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
Prius มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้ไฮบริด การแพร่กระจายของ HEV ในปัจจุบันผ่านรุ่นต่างๆ ทีมพัฒนาตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดและดูว่า Prius ต้องการอะไร เพื่อให้คงความนิยมต่อไปอีก 25 ปีข้างหน้า ตามความปรารถนาที่จะต่ออายุ Prius และสื่อสารความน่าสนใจของรถยนต์ไฮบริด ตามแนวคิด Hybrid Reborn ที่ถูกสร้างขึ้น

📕📕 Toyota PRIUS ใหม่ เจเนอเรชันที่ 5 พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม TNGA เจเนอเรชันที่ 2 โดยอาศัยแนวคิด “Hybrid Reborn” ดีไซน์ออกแบบหน้าตาจะมาในรูปลักษณ์ที่ใหม่หมดทั้งด้านหน้าและด้านท้าย มาพร้อมเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว ตัวรถสร้างขึ้นจากรูปทรงโมโนฟอร์มของรุ่นก่อน ส่วนของระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น ควบคู่ไปกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 19 นิ้ว ยังปรับความสูงของตัวรถให้เตี้ยลง เพื่อให้ตัวรถมีจุดศุนย์ถ่วงที่ต่ำ
ส่วนหน้าชุดไฟหน้า LED แบบ C-shaped ในส่วนกันชนหน้าติดตั้งช่องรับลมขนาดใหญ่ ที่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม พร้อมไฟท้ายที่ออกแบบเป็นเส้นตรงยาวชวนให้นึกถึงบั้นท้ายของ Toyota Mirai ขณะที่ตัวถังยังคงไว้ซึ่งดีไซน์แบบฟาสต์แบ็ก 5 ประตู เพื่อให้มีความลู่ลมเป็นพิเศษ ข้างตัวรถถูกออกแบบเน้นความเรียบง่าย ซุ้มล้อตกแต่งด้วยวัสดุชิ้นงานสีดำ กระจกบานหน้าขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้ลาดเอียง สอดรับกับหลังคาที่โค้งมน
ภายในห้องโดยสารจะมีพื้นที่ที่กว้างขวาง กว่ารุ่นที่ผ่านมา โดยขยายในส่วนระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น ออกแบบโดยใช้แนวคิด “Island architecture” ผู้ขับขี่สามารถโฟกัสไปกับการขับรถได้อย่างเต็มที่ เน้นตกแต่งด้วยโทนสีดำเพื่อเพิ่มความสปอร์ต อีกทั้งยังมีการนำเอาไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient light) มาใช้เป็นสัญญาณเตือนเป็นครั้งแรกของโตโยต้า โดยหากระบบ Toyota Safety Sense ตรวจพบว่า ตัวรถมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน ไฟบนแผงคอนโซลจะกะพริบเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ก่อนที่สัญญาณเสียงจะดังขึ้น เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและผ่อนคลายมากที่สุด

📙📙 Toyota PRIUS ใหม่ มีให้เลือกทั้งขุมพลัง มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ ที่มีขนาด 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า (PS) โดยในรุ่น 2.0 ลิตร ทาง Toyota เผยว่าจะมีพละกำลังที่สูงและแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1.6 เท่า อีกทั้งยังมาพร้อมความประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนพื้นผิวที่มีความเปียกลื่น และยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ
ส่วนรุ่น Prius PHEV 2023 ที่ขายในยุโรป เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 13.6 kWh (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) เทียบกับ 8.8-kWh ของ Prius PHEV รุ่นปัจจุบัน ทำให้รถรุ่นใหม่วิ่งด้วยไฟฟ้าเพียวๆ ได้ไกลขึ้นมาก Toyota ระบุว่า Prius PHEV สามารถทำระยะทางได้มากกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยวิ่งได้แค่ 50 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟจนเต็ม มาเป็น 94.15 กิโลเมตร ในรถรุ่นใหม่ เนื่องจากขนาดของแบตเตอรี่ ซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของระบบขับเคลื่อน และน้ำหนักของรถ
ปลั๊ก-อิน Hybrid-PHEV เจเนอเรชันใหม่ เป็นเครื่องยนต์ TNGA 2.0l ผลิตกำลัง 148 แรงม้า (111kW) และรวมกับมอเตอร์หน้าทรานแซกเคิลแบบใหม่อีก 160 แรงม้า (120kW) กำลังรวมของทั้งสองระบบ 223 แรงม้า (164kW) เมื่อเทียบกับ 122 แรงม้า (90kW) ใน Prius รุ่นปัจจุบัน การกำหนดขนาดของแบตเตอรี่ในระบบ Plug-in Hybrid ที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ทำระยะทางได้มากขึ้น รวมไปถึงอัตราเร่งที่เร็วกว่าเดิมและตอบสนองได้ดี อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.5 วินาที

📙📙 PRIUS PHEV ยังมาพร้อมระบบ My Room Mode ที่ใช้แหล่งจ่ายไฟภายนอกเพื่อป้อนให้กับระบบความบันเทิงและระบบปรับอากาศ ผู้ใช้งานจึงสามารถเพลิดเพลินอยู่ภายในรถได้โดยไม่ต้องสตาร์ทรถ โดยที่รุ่น PHEV จะถูกติดตั้งแบตเตอรี่เอาไว้ใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง ซึ่งจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงและยังเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระอีกด้วย
ความปลอดภัยมีการปรับปรุงระบบ Toyota Safety Sense ให้สามารถตรวจจับวัตถุได้ไกลมากขึ้น พร้อมด้วยระบบ Toyota Teammate ที่มีฟังก์ชัน Advanced Park (with remote function) สามารถสั่งจอดรถและนำรถออกจากช่องจอดผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ ทั้งยังมีระบบกระจกหลังแบบ Digital Inner Mirror ที่ใช้กล้องด้านหลังในการแสดงภาพแทนการใช้กระจกมองหลังปกติ ทั้งยังมีระบบบันทึกภาพขณะขับขี่ที่สามารถเก็บข้อมูลเอาไว้ยังกล่อง ECU โดยตรง แต่ยังคงรองรับ SD Card เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกดูไฟล์ได้ทันที
พรีอุส ใหม่ ยังมีระบบจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกกำลังไฟสูงสุด 1,500 วัตต์ จำนวน 2 ตำแหน่ง (บริเวณด้านหลังคอนโซลกลางและที่เก็บสัมภาระท้าย) โดยผู้ใช้สามารถเลือกโหมด BEV ที่ใช้พลังงานไฟจากแบตเตอรี่โดยไม่อาศัยเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย หรือจะเป็นโหมด HEV ที่เครื่องยนต์จะติดขึ้นหากพบว่าแบตเตอรี่มีปริมาณต่ำ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ตัวรถสามารถจ่ายไฟได้แม้ว่าจะปิดกระจกเพื่อป้องกันฝนหรือแมลงเข้าไปในรถขณะใช้งาน
รุ่น PHEV มาพร้อมหลังคาโซลาร์เจเนอเรชันที่ 2 ที่สามารถชาร์จไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ โดยโตโยต้าระบุว่าแผงโซลาร์ดังกล่าวสามารถผลิตกระแสไฟเพื่อเปลี่ยนเป็นระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 1,250 กิโลเมตรต่อปี และยังสามารถนำไฟฟ้าที่ได้ไปใช้กับระบบปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในรถได้อีกด้วย

📙📙 Toyota Prius รุ่นปี 2023 ใหม่ มาถึงเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว แต่ในบ้านเรา มีวางจำหน่ายเฉพาะเจเนอเรชันที่ 3 ก่อนจะหยุดการทำตลาดไป ทางโตโยต้าญี่ปุ่น มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Toyota Prius 2023 ในช่วงปลายปี 2022 ในรุ่นไฮบริดก่อน Prius PHEV จะเริ่มวางจำหน่ายอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือต้นปี 2023 เป็นต้นไป
ราคาจำหน่ายจะอยู่ที่เท่าไหร่ ต้องรอการเปิดตัวก่อน แนวโน้มจะนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยหรือไม่นั้น ต้องรอลุ้นว่า เมื่อเปิดในตลาดอื่นได้รับความนิยมหรือไม่ เพราะในไทยยังมีหลายรุ่นที่ใกล้เคียงกัน