Search
Close this search box.

Toyota เปิดตัว Crown ใหม่ ฉีกรูปแบบเดิมสิ้นเชิง นำธงรุ่น คราวน์ ครอสโอเวอร์ ไตรมาส 4 ปีนี้ ราคา 1.15 ล้าน

Toyota Japan เผยโฉมใหม่ Toyota Crown ฉีกรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง ในรอบ 67 ปี เตรียมเปิดตลาดรุ่น คราวน์ ครอสโอเวอร์ ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ คิดเป็นเงินไทย 1,150,000 - 1,690,000 บาท แต่ในไทยคงลุ้นเข้ามายาก มุ่งลุยตลาดอเมริกา และจีน ดัน เครื่องยนต์ 2.4 Turbo Hybrid ชูธงนำ

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว “Toyota Crown” ใหม่ ถือเป็นการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 67 ปี ของ Toyota Crown ที่มีเปิดตัวครั้งแรกในปี 1955 ที่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางรุ่นแรกของ Toyota ที่ได้รับการพัฒนาจนถือเป็น รถซาลูนระดับพรีเมียมของ Toyota และยังเป็น รถยนต์รุ่นเก่าแก่ที่สุดของ Toyota ก็ว่าได้ จนถึงทุกวันนี้ Toyota Crown มีทั้งหมด 16 รุ่น
All new Toyota Crown ที่เปิดตัวใหม่นี้ แตกไลน์ตัวถังออกเป็น 4 แบบให้ Sedan, Crossover, SUV และ Estate (Wagon) โดยวางแผนตลาดเอา “คราวน์ ครอสโอเวอร์” ลุยตลาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ หรือไตรมาสที่ 4 ของปี เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้น 4,350,000 เยน ไปจนถึง 6,400,000 เยน ถ้าคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 1,150,000 - 1,690,000 บาท

Crown ใหม่รุ่นนี้ สร้างขึ้นบนพื้นฐาน TNGA-K Platform ของโตโยต้า ที่ถูกใช้ในรถยนต์หลายๆ รุ่น อาทิ Avalon, Camry, Highlander, RAV4, และ Venza ฯลฯ การดีไซน์ได้เปลี่ยนแปลงหน้าตา ต่างจากรุ่นที่ผ่านมา เน้นความโฉบเฉี่ยวล้ำอนาคต สลัดภาพลักษณ์ที่หรูหราดูภูมิฐาน ของ Crown รุ่นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง
กระจังหน้าในรุ่น Sedan ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความหรูหราในแบบฉบับของ Crown ที่ดูหรูหรา รูปทรงของกระจังหน้านั้นมีขนาดใหญ่และเป็นชิ้นเดียวกันตลอดแนว แต่ในรุ่นย่อยอื่นๆ ฉีกแนวออกจากแบบดั่งเดิม สลัดแนวคิดเดิมของรถซาลูนคันโตหน้าตาโบราณออกไป เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยตัวถังที่มีความหลากหลาย มีให้เลือกทั้งรถเก๋งและรถเอสยูวี พร้อมล้อเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ ที่มีสไตล์ที่ทรงพลังมากกว่าเดิม

ในระยะแรกโตโยต้าจะประเดิมทำตลาดด้วย “Crossover” ซึ่งมีลักษณะเป็นรถยนต์ฟาสต์แบ็ก 5 ประตู ช่วงล่างยกสูงแบบ SUV มีการออกแบบเส้นสายให้ดูลื่นไหลและต่อเนื่องตามฉบับรถคูเป้ ติดตั้งไฟหน้าที่มีเส้นเชื่อมเข้าหากันจากซ้ายจรดขวา พร้อมตัวถังด้านข้าง แสดงให้เห็นถึงพื้นผิวที่ถูกออกแบบอย่างประณีตบรรจง เสริมด้วยล้ออัลลอยขนาดใหญ่
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยวัสดุที่เรียกว่า “Warm Steel” ดูอบอุ่น พร้อมหัวเกียร์ที่ถูกออกแบบให้น่าสัมผัสกระชับมือ เบาะนั่งถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ขณะที่ส่วนอื่นๆ ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบเพื่อสะท้อนถึงความเปี่ยมไปด้วยคุณภาพโดยลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้ 12 สี และสีภายในห้องโดยสารถึง 4 สีด้วยกัน

สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ Toyota Crown Crossover จะมากับขุมพลังไฮบริด 2 รูปแบบ เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 4 สูบเรียง 2.5 ลิตร ให้กำลัง 184 แรงม้า มากับมอเตอร์ไฟฟ้า E-Four 2 ตัว ให้กำลัง 161 แรงม้า ที่คู่ที่ด้านหน้า และ 54 แรงม้า ที่คู่ล้อหลังหลัง มาพร้อมและแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์กำลังสูงรุ่นใหม่ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-Four ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 22.4 กิโลเมตร/ลิตร
ส่วนอีกรุ่นเป็นขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 4 สูบเรียง 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จให้กำลัง 268 แรงม้า พร้อมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขนาด 82 แรงม้าที่คู่ล้อหน้า และ 79 แรงม้า ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลังแรงม้ารวมสูงสุดที่ 340 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่แบบ Bipolar Nickel Hydrogen ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ใหม่ พร้อม Manual Mode ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-Four Advance

Toyota Crown เสนอระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ direct shift (เฉพาะ Crown Platinum) หรือระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่องที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (eCVT) (ใน Crown รุ่น XLE และรุ่น Limited) ระบบเกียร์ 6 สปีด direct shift ให้อัตราเร่งที่ฉับไว จากคลัตช์เปียกหลายแผ่นแบบไฮดรอลิกของ Toyota คันเร่งได้รับการปรับปรุงใหม่ เกียร์ 6 สปีด ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นเจเนอเรเตอร์หรือเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าของระบบ HYBRID MAX เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน สามารถเปลี่ยนเกียร์ให้อยู่ในเกียร์ธรรมดา เพื่อความสนุกในการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง
เกียร์ eCVT ใน Crown XLE และ Limited ใช้ระบบ shift-by-wire เปลี่ยนเกียร์ด้วยสมองกลอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์สั่งงานที่ชาญฉลาด จับคู่กับ transaxle ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ระบบไฮบริด THS มีตัวเลขสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ มีเสียงการทำงานที่เบาตามสไตล์รถยนต์ไฮบริด อัตราทดเกียร์ที่ปรับให้เหมาะสมรวมถึงระบบเบรกสะสมพลังงาน regenerative braking ช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง

Toyota Crown ติดตั้งเบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง การปรับเบาะนั่งด้านหน้ามีทั้งแบบเลื่อน ปรับเอน เอียง ปรับความสูง และส่วนรองรับเอว (เฉพาะเบาะคนขับ) เบาะนั่งด้านหลังมีระบบรองรับแรงกระแทกและหมอนรองด้านข้างที่ทำให้รู้สึกสบายตัวเมื่อเดินทางระยะไกล เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับอุณหภูมิได้คล้าย Lexus ES รุ่น Limited และ Platinum เพิ่มเบาะนั่งด้านหน้าพร้อมระบบปรับอากาศ เบาะหลังแบบอุ่น เบาะหุ้มผ้าทอสีดำในรุ่น XLE, Softex และเบาะแบบมาตรฐานที่หุ้มด้วยผ้าในรุ่น Limited และเบาะหนังในรุ่น Platinum
Toyota Audio Multimedia ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth แบบคู่พร้อมกันได้ พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย การสมัครสมาชิก Wi-Fi Connect มีการเชื่อมต่อ 4G สำหรับอุปกรณ์สูงสุดห้าเครื่อง เพิ่มความสามารถในการเล่นเสียงด้วย HD Radio, ข้อมูล USB และ SiriusXM Platinum Plan Wi-Fi Connect ยังเปิดใช้งานคุณสมบัติการสตรีมในตัว ให้ความสามารถในการเชื่อมโยง Apple Music และ Apple Music แยกจากกัน การสมัครสมาชิก Amazon Music กับรถยนต์สำหรับการควบคุมออนบอร์ด

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 (TSS 3.0) เซนเซอร์ระบบตรวจจับที่ทำงานเร็วขึ้น ระบบ Pre-Collision ตรวจจับคนเดินถนน สามารถแยกแยะตัวแปรต่างๆ โดยตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และราวกั้นได้ในบางสภาวะ เมื่อเลี้ยวหรือเข้าใกล้ทางแยก TSS 3.0 ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือด้านข้าง แจ้งเตือนด้วยเสียงหรือภาพบนจอภาพ HUD โดยมีการเชื่อมต่อกับระบบเบรกอัตโนมัติในบางสภาวะอีกด้วย
Toyota Crown ติดตั้ง Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) สามารถสแกนช่องทางด้วยประสิทธิภาพที่ขึ้น แจ้งเตือนการออกจากเลน พร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยวและระบบช่วยติดตามช่องทาง ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับพวงมาลัยแบบดึงกลับ รวมถึงแจ้งเตือนคนขับผ่านเสียงเตือนและภาพ พวงมาลัยจะมีแรงบังคับเลี้ยวเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อไม่ให้รบกวนการควบคุมของคนขับ หาก DRCC ตรวจพบว่ารถกำลังออกจากเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว เมื่อ DRCC ถูกตั้งค่าและเข้าร่วม Lane Tracing Assist จะใช้เครื่องหมายบอกเลนที่มองเห็นได้หรือรถที่อยู่ข้างหน้าเพื่อช่วยให้รถอยู่ตรงกลางเลนและทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัย
ระบบไฟอัตโนมัติ Multi Beam LED ออกแบบมาเพื่อตรวจจับรถที่ขับมาข้างหน้าหรือที่ขับสวนมา และสลับไปมาระหว่างไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติ Road Sign Assist ออกแบบมาเพื่อจดจำข้อมูลป้ายจราจร โดยใช้กล้องที่ด้านหน้า และแสดงบนจอแสดงผลข้อมูลหลายส่วนบนจอภาพ MID

นั่นคือความไฮเทคของ Toyota Crown Crossover ที่มีกำหนด วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ระหว่างเดือนกันยายน - พฤศจิกายน) ราคาเริ่มต้นของ ที่ประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้น 4,350,000 – 6,400,000 เยน คิดเป็นเงินไทย ราว 1,150,000 – 1,690,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย) หลังจากนั้น จะทยอยเปิดตัวในภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป

ทาง Toyota Japan ยังย้ำอีกว่า ส่วนการเจาะตลาดอเมริกานั้น เริ่มปลายปีแน่นอน โดยออกแบบ Crown Crossover ที่โฉบเฉี่ยวกับคนอเมริกันโดยเฉพาะ ส่วนในจีน ถือเป็นภูมิภาคหลักที่เป็นจุดสำคัญที่ โตโยต้าคงทิ้งไม่ได้ อยู่ระหว่างการออกแบบโมเดลสำหรับชาวจีนก่อนที่จะเปิดตัวภายในปลายปีนี้ สำหรับชาวไทย คงจะยากหน่อย เพราะในไทย ที่รถหรูหราราคาแพงอย่าง Lexus ของโตโยต้า อยู่แล้ว เป็นเรื่องยาก ที่ Crown จะแทรกตลาดส่วนนี้เข้ามาได้