Mitsubishi เตรียมเปิดตัว Triton PHEV 2023 เจนใหม่ มุ่งเน้น Plug-in Hybrid ลุยทั่วโลก กลางปีนี้ ถือเป็นรถกระบะขนาดกลางรุ่นแรก ของมิตซูบิชิ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด โดยใช้เทคโนโลยีของ Outlander ให้กำลังสูงสุดรวม 248 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร วิ่งไฟฟ้าล้วน 87 กม. WLTC แบตเตอรี่ขนาด 20kWh ส่วนไทยลุ้นต้นปี 2024
🔴 All-New Mitsubishi Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ น่าจะเปิดตัวช่วงกลางปีหน้า 2566 ในหลายตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะในออสเตรเลีย ตอนนี้ ข้อมูลเริ่มออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะจาก ผู้บริหาร Mitsubishi ในต่างประเทศนั่นเอง โดยเฉพาะออสเตรเลีย ตลาดรถยนต์ ที่รถกระบะปิกอัพ ได้รับความนิยมสูงสุด เช่นเดียวกับในประเทศไทย
จากข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Triton โฉมใหม่ มาพร้อมขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ห้องโดยสารที่ดูทันมัย ช่วงล่างที่ดีขึ้น และขุมพลังดีเซล เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า รวมถึงขุมพลัง Plug-In Hybrid และแม้แต่ขุมพลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือ BEV ที่คงใช้เวลาอีก 2-3 ปี ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในอนาคต
🔴 Mitsubishi Triton 2023 เจเนอเรชั่นต่อไปของ จะเริ่มเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย โดยจะเริ่มที่เป็น แบบไฮบริด และ Plug-in Hybrid โดยจะใช้ เทคโนโลยี Plug-in Hybrid ของ Outlander เพื่อรับมือกับคู่แข่งกับรถยนต์ที่ขายดีอย่าง Ford Ranger และ Toyota HiLux ที่ออกตลาด รุ่น Plug-in Hybrid เช่นเดียวกัน
Triton PHEV จะเอาขุมพลังของ Outlander PHEV ใหม่ มาใช้กับรถกระบะ Triton มีการปรับแต่งให้มีสมรรถนะมากขึ้น และอาจจะเป็นรถกระบะขนาดกลางรุ่นแรกของวงการ ที่มีขุมพลังไฮบริดให้เลือก โดยปัจจุบันนี้ Outlander PHEV ใช้ขุมพลังไฮบริดเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 4 สูบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวม 248 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร วิ่งไฟฟ้าล้วน 87 กม. WLTC แบตเตอรี่ขนาด 20kWh ซึ่งเป็นตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ
ซึ่งมีสมรรถนะสูงกว่าขุมพลังดีเซลเทอร์โบ ความจุ 2.4 ลิตร ของ Triton โฉมปัจจุบัน ซึ่งให้กำลังสูงสุดที่ 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร แต่ปัญหาคือ Outlander PHEV รุ่นนี้ สามารถลากจูงโหลดที่มีน้ำหนักสูงสุดได้เพียง 1,600 กิโลกรัมเท่านั้น All-New Triton ใหม่ จึงต้องมีพละกำลังมากกว่านี้ เพื่อให้สามารถลากจูงโหลดที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 3,100 กิโลกรัม ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ที่คาดว่าเอาเข้าจริง จะสามารถขยับตัวเลขไปที่ระดับ 3,500 กิโลกรัมได้
ส่วนในรุ่น Hybrid และไฟฟ้าแบตเตอรี่ BEV แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันในเรื่องตัวเลขด้านสมรรถนะ แต่สื่อต่างประเทศคาดการณ์ไว้ว่า กำลังสูงสุดที่ 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร เพียงพอสำหรับน้ำหนักของมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ที่เพิ่มเข้ามาถึง 300 กิโลกรัม เพื่อให้สามารถบรรทุก และลากจูงโหลดได้ในระดับที่ลูกค้าคาดหวังไว้
🔴 All-New Mitsubishi Triton PHEV หรือ L200 เจนเนอเรชั่นที่ 6 ในออสเตรเลีย เริ่มเห็นภาพ Spy shot ภาพจำลอง ข้อมูลทางด้านเทคนิคไปแล้ว ซึ่งผู้บริหารของ Mitsubishi ในออสเตรเลีย ยืนยันว่า เตรียมนำเอาขุมพลังไฮบริด PHEV มาใช้กับรถกระบะรุ่นนี้เป็นครั้งแรก หลังจากใช้ในรุ่น Outlander PHEV ไปแล้ว และอาจเปิดตัว Triton PHEV ในปี 2023 นี้ด้วย
หากเป็นจริง Triton PHEV ก็จะกลายเป็นรถกระบะขนาดกลางรุ่นแรก ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด หมายถึงการก้าวข้ามไปสู่ยุคใหม่ของวงการรถกระบะ ที่ใช้ขุมพลังอื่น ที่ไม่ใช่เครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียว แถมยังพ่วง Plug-in Hybrid เข้าไปด้วย
โดย Mitsubishi ไม่ใช่บริษัทเดียว ที่มีแนวโน้มจะนำเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มาใช้ เป็นส่วนหนึ่งของรถกระบะรุ่นต่อไป Ford กำลังทำงานกับ Ranger PHEV รวมถึง Toyota Hilux ด้วย แม้กระทั่ง Isuzu D-MAX และ Nissan Navara ล้วนหันมาจับจ้องตลาดรถยนต์รุ่น Plug-in Hybrid ด้วย
🔵 นอกจากนี้ เทคโนโลยี Plug-in Hybrid เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับประเทศออสเตรเลีย การทดสอบวิ่ง Mitsubishi L200 / Triton ใหม่ ซึ่งมีการออกแบบกระจังหน้าคล้ายๆ Outlander ขนาบข้างด้วยไฟวิ่งกลางวันทรงเรียว พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ฐานล้อที่ยาวขึ้นส่งผลให้ภายในห้องโดยสารกว้างขึ้น ด้านหลังเปลี่ยนเล็กน้อย โมเดลใหม่ยังใช้ขุมพลังเดิม แต่ปรับจูนเล็กน้อย Mitsubishi Triton พัฒนาถึงเจนที่ 5 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 และ ปรับอุปกรณ์ล่าสุดปลายปี 2020 ตามแผนงานของ Mitsibishi
Mitsubishi ถือเป็นผู้นำในการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ เนื่องจากความแข็งแกร่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ออสเตรเลีย โดยเฉพาะแผนธุรกิจใหม่ ใช้กลยุทธ์นี้ บุกตลาดอาเซียนเป็นตลาดหลัก เป็นเป้าหมายของ Mitsubishi นอกเหนือจากตลาดอเมริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปและ ในปี 2023 จะได้เห็น New Triton ในรูปแบบ Plug-in Hybrid ค่อนข้างแน่นอน สำหรับในตลาดญี่ปุ่นเอง มีความเป็นไปได้ว่า จะเปิดตัวก่อน ในช่วงไตรมาสแรก หรือไตรมาสสอง ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2566 บางครั้ง อาจจะมีการนำมาโชว์ในเมืองไทยก็เป็นไปได้ ในรูปแบบ Concept Cars หรือรถต้นแบบ
