Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Menu
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Search
Search
Close this search box.
Search
Search
Close this search box.
ผลสำรวจจาก Differential ชี้ คนไทยพอใจ “ศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก”
May 23, 2024
Youtube
บริษัท ดิฟเฟอเรนเชียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยการตลาดชั้นนำ เผยผลสำรวจพฤติกรรมและประสบการณ์การใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์ทั่วประเทศไทย ปี 2567 ในกลุ่มเจ้าของรถยนต์ใหม่ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี และยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกันจากบริษัทรถยนต์ จำนวนกว่า 2,500 คน โดยเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้บริการจาก “ศูนย์บริการมาตรฐานของแบรนด์รถ” กับ “ศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก” ซึ่งประกอบด้วย 1) ศูนย์บริการซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) อาทิ B-Quik, Cockpit ฯลฯ 2) อู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไป และ 3) ร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์
จากการศึกษาพบว่า เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่ (59%) จะนำรถเข้ารับบริการเมื่อครบกำหนดตามระยะทางการใช้งาน ขณะที่ 27% จะนำรถเข้ารับบริการตามกำหนดเวลาหรือตามระยะทางการใช้งาน ขึ้นอยู่กับว่าอย่างใดจะถึงก่อน และส่วนที่เหลืออีก 14% จะนำรถเข้ารับบริการเมื่อครบกำหนดเวลาหรือทุก ๆ 6 เดือน
นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบอีกว่า 8% ของผู้ตอบแบบสำรวจซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ยังอยู่ในระยะเวลา การรับประกัน มีการใช้บริการทั้งศูนย์บริการมาตรฐานของแบรนด์รถยนต์ ควบคู่กับศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก โดยหากจำแนกตามประเภทรถยนต์ที่ใช้งาน พบว่า กลุ่มเจ้าของรถกระบะที่ยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกันจำนวน 12% เลือกใช้บริการทั้งศูนย์บริการมาตรฐานฯ ควบคู่กับศูนย์บริการทางเลือก ตามด้วย กลุ่มเจ้าของรถ PPV (7%) กลุ่มเจ้าของรถ SUV (6%) กลุ่มเจ้าของรถยนต์นั่งทั่วไป (5%) และกลุ่มเจ้าของรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ หรือ BEV (3%) ตามลำดับ
และเมื่อพิจารณาถึงศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือกที่เจ้าของรถยนต์ใช้บริการ พบว่า กลุ่มเจ้าของรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ หรือ BEV เลือกใช้ศูนย์บริการประเภทซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) เช่น B-Quik, Cockpit ฯลฯ ทั้งสิ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 100% รองลงมาคือกลุ่มเจ้าของรถยนต์นั่งทั่วไป นิยมใช้ถึง 59% และกลุ่มเจ้าของรถ SUV ที่เลือกใช้บริการเป็นจำนวน 47%
ทั้งนี้ กลุ่มเจ้าของรถ PPV กลับนิยมเลือกใช้บริการจากร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เช่น ร้านยางหรือร้านแบตเตอรี่ (38%) ในขณะที่ เจ้าของรถกระบะจะนิยมใช้บริการจากอู่ซ่อมรถทั่วไปเป็นหลัก (41%)
“เจ้าของรถที่มีประสบการณ์การใช้รถมาก่อน มีแนวโน้มหันมาใช้ศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือกมากขึ้น”
เมื่อแบ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจตามประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ สังเกตได้ว่า เจ้าของรถที่มีประสบการณ์ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก (10%) มากกว่าผู้เป็นเจ้าของรถครั้งแรก (6%) เนื่องจากเจ้าของรถมือใหม่มีความกังวลมากกว่าในการรักษาเงื่อนไขของการรับประกันจากบริษัทรถยนต์ โดย 50% ของกลุ่มเจ้าของรถมือใหม่ และ 35% ของกลุ่มเจ้าของรถที่มีประสบการณ์ที่ต้องการใช้ศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก จะนิยมเลือกใช้ศูนย์บริการซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) เป็นหลัก
“ประเภทบริการที่นิยมใช้ในศูนย์บริการเร่งด่วน (Fast Fit): บริการด้านยางล้อ ช่วงล่าง และน้ำมันหล่อลื่น”
จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสำรวจที่เลือกใช้บริการทั้งศูนย์บริการมาตรฐานของแบรนด์รถยนต์ ควบคู่ไปกับศูนย์บริการทางเลือกประเภทศูนย์บริการซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) ระบุว่า งานบริการที่นิยมใช้บริการที่ศูนย์บริการประเภทซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) คือ บริการเปลี่ยนยาง สลับยาง สูงถึง 47% รองลงมาคือบริการเปลี่ยนผ้าเบรกและ โช้คอัพ 24% บริการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น 15% บริการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน 8% และบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ 7%
“ศูนย์บริการซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) โดดเด่นในปัจจัยด้านราคาและความคุ้มค่า”
นายศิรส สาตราภัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิฟเฟอเรนเชียล ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “สิ่งที่น่าสนใจคือคะแนนความพึงพอใจของผู้ที่ใช้ศูนย์บริการทั้งสองประเภท พบว่า ศูนย์บริการมาตรฐานของแบรนด์รถยนต์โดดเด่นในด้านคุณภาพการให้บริการที่ 9.2 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน* เมื่อเทียบกับศูนย์บริการประเภทซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) ที่ 9.0 คะแนน อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริการประเภทซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) ได้รับคะแนนความพึงพอใจมากกว่าในด้านราคาและความคุ้มค่าที่ 9.2 คะแนน เทียบกับ 9.0 คะแนนที่ลูกค้าประเมินให้กับศูนย์บริการมาตรฐานฯ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบประสบการณ์โดยรวมแล้ว ลูกค้าที่ใช้ศูนย์บริการทั้งสองประเภทให้คะแนนความพึงพอใจกับประสบการณ์โดยรวมจากศูนย์บริการประเภทซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) สูงกว่าในระดับ 9.2 คะแนน ต่อ 9.0 คะแนน เช่นกัน” *คะแนนความพึงพอใจเต็ม 10 คะแนน โดย 1 หมายถึง พึงพอใจน้อยที่สุด และ 10 หมายถึง พึงพอใจมากที่สุด
นายศิรส กล่าวเสริมว่า “การวิเคราะห์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยและพฤติกรรมของผู้บริโภคท่ามกลางภาวะการแข่งขันสูงระหว่างกลุ่มธุรกิจรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยเหตุนี้ ดิฟเฟอเรนเชียลจึงจัดทำแบบสำรวจพฤติกรรมและประสบการณ์การใช้บริการจากศูนย์บริการมาตรฐานของแบรนด์รถ และศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก ประจำปี 2567 นี้ขึ้น ซึ่งผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือกเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความนิยมและเติบโตมากขึ้นในประเทศไทย แม้ว่ารถยนต์จะยังคงอยู่ในช่วงเวลาการรับประกัน ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายคาดหวังที่จะรักษาฐานลูกค้าและสร้างความผูกพันจากการนำรถกลับเข้ามารับบริการจากศูนย์บริการมาตรฐานของแบรนด์ให้ได้มากที่สุด แต่ก็ยังมีลูกค้าส่วนหนึ่งที่หลุดออกจากวงจรไปใช้บริการที่ศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือกตั้งแต่ปีแรก ๆ ของการเป็นเจ้าของรถ และอัตราการออกไปใช้งานศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือกจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุรถเพิ่มขึ้น ดังนั้นสำหรับแบรนด์รถยนต์แล้ว การส่งมอบประสบการณ์ คุณค่า รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์และ เจ้าของรถ ด้วยวิธีการสื่อสารที่เน้นผู้บริโภคเป็นจุดศูนย์กลาง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทรถยนต์ต้องคำนึงถึง เพื่อให้ประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์เป็นไปอย่างไร้กังวล ส่วนศูนย์บริการรถยนต์ทางเลือก โดยเฉพาะศูนย์บริการรถยนต์ประเภทซ่อมเร่งด่วน (Fast Fit) ที่กำลังใช้โอกาสดังกล่าวเติบโตอย่างก้าวกระโดด การคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่หรือด้านระยะเวลาการให้บริการ ต่างเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจให้สามารถ ยืนหยัดได้ในภาวะการแข่งขันสูงของธุรกิจยานยนต์ในวันนี้และในอนาคต”
Previous Article
Next Article
You May Also Like
มาสด้า สื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ “JOY DRIVES LIVES” ความสุขขับเคลื่อนชีวิต
อ่านเพิ่มเติม
Mitsubishi e:MOTION เปิดตัว XFORCE HEV ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม
ISUZU จัดการแข่งขันทักษะด้านการขาย และบริการหลังการขายประจำปี 2567
อ่านเพิ่มเติม
โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ จับมือ กสอ. ฉลองความสำเร็จพัฒนาวิสาหกิจชุมชนด้วย “TSI Way”
อ่านเพิ่มเติม
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us