Search
Close this search box.

เริ่มแล้ว!! ตัดแต้มใบขับขี่ ทำผิดกฎจราจร เมาแล้วขับ-เสพยา เจอตัด 4 แต้ม คะแนนเหลือศูนย์ พักใบขับขี่ 90วัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมใช้ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 20 ฐานความผิด หากถูกตัดเหลือ 0 คะแนนถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน กรณีค้างจ่ายค่าปรับตามใบสั่งถูกตัดแต้มเช่นกัน เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

📕 สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจงรายละเอียด 6 ข้อ เกี่ยวกับมาตรการตัดแต้มใบขับขี่เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร ดังนี้
1. ขับรถต้องมีใบขับขี่ โดยผู้ขับขี่ทุกคนมี 12 คะแนน
2. ทำผิดกฎจราจรใน 20 ฐานความผิด หรือไม่ชำระค่าปรับจราจร ถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1-4 คะแนนขึ้นอยู่กับความผิด
3. หากถูกตัดคะแนนเหลือ 0 ถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน
4. ฝ่าฝืนขับรถในช่วงถูกพักใช้ใบขับขี่ จำคุก 3 เดือน และ/หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
5. คืนคะแนนได้ด้วยการอบรมกับกรมการขนส่งทางบก หรือรอให้ครบ 1 ปี จะได้คะแนนคืนโดยอัตโนมัติ
6. หากถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในรอบ 3 ปี อาจถูกพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน และหลังจากนั้นภายใน 1 ปี หากถูกตัดคะแนนอีกจนถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 4 อาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ทุกประเภท

📕 โดยผู้ขับขี่ทุกคนจะมีคะแนนเท่ากัน คือ 12 คะแนน ซึ่งจะถูกตัดแต้มจาก 2 กรณี ได้แก่ การถูกจับซึ่งหน้า ตัดแต้มผู้ขับขี่ได้ทันที และกรณีการกระทำความผิดที่ไม่พบตัวคนขับ เช่น จอดรถในที่ห้ามจอด แล้วถูกออกใบสั่ง หรือขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดและถูกกล้องตรวจจับไว้ได้ จะตัดแต้มที่เจ้าของรถ ซึ่งเจ้าของรถมีสิทธิ์โต้แย้งได้ว่า ตนเองไม่ได้ขับขี่ขณะนั้น ก็จะไม่ถูกตัดแต้ม
หาก 12 คะแนนหมดลง จะถูกพักใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 90 วัน เมื่อพ้น 90 วันแล้ว กลับมาขับขี่ได้ แต่จะไม่ได้คะแนนคืน หรือกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน ไม่สามารถรอพ้น 90 วันได้ ให้ผู้ขับขี่ ติดต่อขออบรมกับกรมการขนส่งทางบก และให้ขนส่งพิจารณา หากผ่านเกณฑ์ ทางขนส่งจะประสานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอนุญาตต่อไป แต่หากฝ่าฝืนขับรถ ขณะถูกพักใช้ใบขับขี่ จะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

📌📌 สาระสำคัญของระบบ คือ
กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้

▶️▶️ ข้อหาที่ถูกตัด 1 คะแนน
➡️ ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
➡️ ไม่สวมหมวกกันน็อก
➡️ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
➡️ ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด
➡️ ขับรถบนทางเท้า
➡️ ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
➡️ ไม่หลบรถฉุกเฉิน
➡️ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว
➡️ ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไข
➡️ ไม่ติดป้ายภาษี

▶️▶️ ข้อหาที่ถูกตัด 2 คะแนน
➡️ ขับรถฝ่าไฟแดง
➡️ ขับรถย้อนศร
➡️ ขับรถในระหว่างโดยพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่

▶️▶️ ข้อหาที่ถูกตัด 3 คะแนน
➡️ ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
➡️ ขับผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา
➡️ ขับรถชนแล้วหนี

▶️▶️ ข้อหาที่ถูกตัด 4 คะแนน
➡️ เมาแล้วขับ
➡️ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด
➡️ แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
➡️ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

กรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายในทาง, ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่, ขับรถไม่ชิดซ้าย, จอดรถในที่ห้ามจอด ฯลฯ ถูกตัด 1 คะแนน ต่อ 1 ใบสั่ง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบคะแนนและสถานะใบขับขี่ของตนเองได้ที่ http://ptm.police.go.th และแอปพลิเคชัน “ขับดี” บนสมาร์ทโฟน iOS และ Android

🔴 การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156 หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

🔴 การคืนคะแนน แบ่งเป็นการคืนคะแนนโดยอัตโนมัติ และการคืนคะแนนเมื่อผ่านการอบรมจากกรมการขนส่งทางบก ดังนี้
1) การคืนคะแนนอัตโนมัตินั้น คะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ะครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้น ๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ โดยได้รับคืนเพียง 8 คะแนน
2) การคืนคะแนนโดยวิธีการเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมี 2 กรณี
- กรณีที่คะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ แต่อบรมได้เพียงปีละ 2 ครั้ง
- กรณีที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน และต้องการคะแนนกลับคืนมาทั้งหมด 12 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ เมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกรมการขนส่งทางบก ก็จะได้รับคืนคะแนนตามที่กำหนด

🔴 ระบบบริการรับชำระค่าปรับผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการรับชำระค่าปรับผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถทำรายการได้ด้วยตนเอง ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai NEXT” และ “เป๋าตัง” โดยไม่มีค่าธรรมเนียม และสามารถชำระค่าปรับใบสั่งผ่านทางเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน (e-Ticket) https://ptm.police.go.th/ ด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ประหยัดเวลาในการเดินทาง พร้อมบริการตรวจสอบแต้มจราจรผ่านระบบออนไลน์
สำหรับความร่วมมือในส่วนของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เปิดเผยว่า เอ็นที ในฐานะรัฐวิสาหกิจผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและระบบสารสนเทศขนาดใหญ่ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและผลกระทบ จากการเกิดอุบัติเหตุโดยล่าสุดได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวในการใช้ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ พร้อมทั้งเปิดตัวโมไบล์ ชื่อว่า ขับดี (KHUB DEE)

🔴 ช่องทางการตรวจสอบคะแนน
1) เว็บไซต์ E-Ticket PTM ซึ่งพัฒนาโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สามารถตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ จ่ายค่าปรับ ตรวจสอบคะแนนความประพฤติ และตรวจสอบสถานะใบขับขี่
2) แอปพลิเคชัน ขับดี (KHUB DEE) ซึ่งพัฒนาโดย NT เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร ตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติ และดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่อันเป็นประโยชน์ที่ทันสมัย
3) แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ให้บริการชำระค่าปรับผ่านระบบออนไลน์