TOYOTA เปิดตัว HILUX TRAVO และ HILUX TRAVO-e ใหม่!

TOYOTA HILUX TRAVO จะมาในรุ่นยกสูงเท่านั้น มีทั้งหมด 4 Segments (17 รุ่นย่อย) ได้แก่

1. “HILUX TRAVO OVERLAND” รุ่นเรือธง (ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
ราคา 1,102,000 – 1,366,000 บาท

2. “HILUX TRAVO PRERUNNER” ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
ราคา 789,000 – 945,000 บาท

3. “HILUX TRAVO 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ราคา 984,000 – 1,090,000 บาท

4. “HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ราคา 774,000 – 826,000 บาท

และทางเลือกใหม่ กระบะไฟฟ้าตัวจริง HILUX TRAVO-e
ราคา 1,491,000 บาท

จุดขายเด่นของ HILUX TRAVO OVERLAND

ดีไซน์ภายนอก
• ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
• ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา
• สปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
• ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน
• จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัด
• พวงมาลัยไฟฟ้า แม่นยำ ควบคุมง่าย
• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
• แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
• ที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และที่พักแขนช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่

เทคโนโลยี "Dynamic Cloud"
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น
• เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว
• และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
• ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และ ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
• เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
• ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน
• แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน

เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
- เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร - เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
• มาพร้อมกับเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ขนาด 2.8 ลิตร มาพร้อมทั้งพลัง และความประหยัดที่ดีขึ้น
• ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการรถกระบะที่เปี่ยมไปด้วยขุมพลัง
• เทคโนโลยีหัวฉีด อัจฉริยะ i-Art ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรล แรงดันสูงสุด 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด
• ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมัน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
• ระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย
• ทั้งแบบ ดิน ทราย โคลน หิน หรือ หิมะ
• ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
• เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
• บันไดข้าง พื้นลายรังผึ้ง Hexagonal Grip เพิ่มการยึดเกาะ และ สะดวกในการก้าวขึ้นลง
• บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ช่วยให้การขึ้นลงสะดวกขึ้น
• ระบบช่วยผ่อนแรงฝาท้ายกระบะ เปิด-ปิดง่าย

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
• เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense*
- All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Curve Speed Reduction and Lane Tracing Assist ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- Pre-collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
- Lane Departure Alert ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
- Automatic High Beam ระบบความคุมไฟอัตโนมัติ
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง*
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
*มีในรุ่น Overland Plus

จุดขายเด่นของ HILUX TRAVO PRERUNNER และ 4TREX
(*อ้างอิงจากรุ่น Premium)

• ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”
• ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
• เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
- เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
- เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร

• เทคโนโลยี "Dynamic Cloud" ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ
ดีไซน์ภายใน “Robust Simplicity” และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
• จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
• แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
• เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
• เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
• ระบบ Push start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปลายนิ้ว
• ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
• ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้าง
• พร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
• ดิสก์เบรก 4 ล้อให้การเบรกตอบสนองรวดเร็วแม่นยำ
• Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
• Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
• ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

จุดขายเด่นของ TOYOTA HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX

• ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง

• เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
- เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
- เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร

เพิ่มประสิทธิภาพการการยึดเกาะถนน การควบคุมและการทรงตัวดียิ่งขึ้น
• แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และ ลดแรงสั่นสะเทือน
• เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
• แหนบกันสะเทือน ดูดซับแรงสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
• ยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
• จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
• เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
• ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
• Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
• Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง

รุ่น HILUX TRAVO-e
กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ HILUX ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนแนวคิด Multi-Pathway สมรรถนะสูง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะตัวจริง โดย HILUX TRAVO-e มาในรุ่น Double Cab 4TREX เท่านั้น

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
• ระบบ Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์)
- ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร
- ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร
• ความจุแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 59.2 kWh ระยะทาง 315 กม. (อ้างอิงจาก Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 10 kW และ แบบ DC สูงสุดถึง 125 kW

มั่นใจกับ “DIAMOND GUARD” เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า
• ช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยแผ่นปิดเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ
• แบตเตอรี่ยึดกับเฟรมย่อยเป็นรูป Diamond Shape ช่วยลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน
• เสริมความปลอดภัยจากการกระแทกรอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก

เทคโนโลยี "Dynamic Cloud" สำหรับ TRAVO-e ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความสบายในทุกมิติ
• เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
• ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
• เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
• แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
• ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน ด้านหลังแบบ De-Dion ลดน้ำหนักใต้สปริง นุ่มนวล เสริมสมรรถนะการควบคุม
• แบตเตอรี่ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางเฟรม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและสมดุลของรถ

เลือกเป็นเจ้าของ TOYOTA HILUX TRAVO มาพร้อม 6 สีให้เลือก
• ใหม่! สีน้ำตาล SULFUR METALLIC
• ใหม่! สีเทา ASH
• สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
• สีขาว SUPER WHITE II
• สีดำ ATTITUDE BLACK MICA
• สีเงิน SILVER METALLIC
(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท และ สีขาว SUPER WHITE II ลด 7,000 บาท)

และ HILUX TRAVO-e Double Cab 4TREX มาพร้อม 2 สีให้เลือก
• ใหม่! สีเทา ASH
• สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท)