Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Menu
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Search
Close
Search
Close
VINFAST เดินหน้ารุกตลาดไทย พร้อมผลักดันความเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน
April 29, 2024
Share on facebook
Share on twitter
Youtube
ด้วยประสบการณ์อันแข็งแกร่งในระดับโลก และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดอาเซียน วินฟาสต์ แบรนด์รถยนต์หน้าใหม่จากเวียดนาม กำลังสยายปีกสู่ประเทศไทย และพร้อมท้าชิงผู้เล่นที่มีฐานธุรกิจอันแข็งแกร่งกว่าในตลาดที่ได้ชื่อว่าเป็น “ศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ของโลก”
วินฟาสต์คือบริษัทผลิตรถยนต์ในเครือของวินกรุ๊ป บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 และ เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2564 จากนั้นได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ในปี 2566 ซึ่งเป็น ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญซึ่งทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
นับจากนั้น วินฟาสต์ก็ค่อยๆ เริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดใหญ่ของโลก อย่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยปัจจุบัน กำลังสร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในรัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐฯ และอินเดีย และมีแผนจะสร้างโรงงานเพิ่มเติม ในอินโดนีเซีย ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่เริ่มก่อตั้งได้ไม่นานเป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่ดี รวมทั้งการศึกษา วิจัยตลาดอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
จากประสบการณ์ในระดับโลกสู่ความสำเร็จในตลาดโลคอล
ในปีนี้ วินฟาสต์เล็งขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง โดยอาศัยประสบการณ์จากตลาดในอเมริกา มาจับตลาดประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย และไทย ซึ่งได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน
จากการสำรวจของ Ipsos ในช่วงปลายปี 2566 พบว่าคนไทยถึงร้อยละ 84 มีแนวโน้มที่จะพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในการซื้อรถคันต่อไป แม้ว่าการใช้รถ EV จะช่วยประหยัดได้ในระยะยาว โดย 65% ของผู้ตอบแบบสำรวจของ Ipso เห็นว่าการประหยัดค่าเชื้อเพลิงเป็นเหตุผลหลักในการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่ค่าใช้จ่ายก้อนโตก้อนแรกในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นอุปสรรคสำหรับคนไทยถึงเกือบครึ่ง หรือ 48%
นอกจากนั้น นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ยังได้คาดการณ์ว่ายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในไทยจะสูงถึง 150,000 คัน ภายในสิ้นปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่ผ่านมา
แนวโน้มดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าว่าตลาด EV ในประเทศกำลังขยายตัวขึ้นทุกปี ด้วยนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งการเติบโตดังกล่าวนี้ย่อมหมายถึงศักยภาพทางธุรกิจสำหรับวินฟาสต์
เมื่อเร็วๆ นี้ วินฟาสต์ประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์หลากหลายรุ่นในประเทศไทยภายใน 2567 นี้ ประกอบด้วย รุ่น VF e34 ในเดือนมิถุนายน 2567 รุ่น VF 5 ในเดือนสิงหาคม หรือกันยายน 2567 และรุ่น VF 6 และ VF 7 ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่กำหนดมาเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ EV ของจีนที่เริ่มติดตลาดประเทศไทย แล้วในช่วงที่ผ่านมา
ฮานา วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เป้าหมายแรกของเราคือ การวัดผลตอบรับของตลาดไทย เราอยากรู้ว่ารถยนต์รุ่นใดของวินฟาสต์ที่โดนใจผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด” แม้ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะมีการแข่งขันสูง แต่วินฟาสต์เชื่อมั่นว่ายังมีแนวโน้มที่ดีสำหรับการรุก ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ยิ่งไปกว่านั้น เป็นที่รู้กันดีว่าผู้บริโภคชาวไทยมีความพิถีพิถันและความต้องการรถยนต์ ที่สะท้อนถึงตัวตนของเจ้าของ มากกว่าความเหมาะสมในการใช้งานจริง และมักเลือกใช้รถยนต์ที่สอดคล้อง และสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ วินฟาสต์จึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย เช่นเดียวกับ ในตลาดอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่นรุ่น VF 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในประเทศไทยในปลายปีนี้ จะมุ่งเน้นความเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัว ซึ่งเหมาะสำหรับคนเมืองส่วนใหญ่
เมื่อมีการขยายธุรกิจไปทั่วโลก วินฟาสต์ได้ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งในด้านตัวผลิตภัณฑ์และแผนธุรกิจของบริษัทที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับตลาดในประเทศต่าง ๆ “ความยืดหยุ่นเป็นกุญแจสำคัญในแผนการจัดจำหน่ายของเรา และเราพร้อมที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับผลตอบรับและความต้องการของตลาดประเทศไทย” ซีอีโอของวินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) กล่าว
บริการแบตเตอรี่แบบสมัครสมาชิก โซลูชั่นเพื่อคนไทย
ตลาด EV ที่กำลังเติบโตไม่ได้รับประกันว่าผู้เล่นทุกรายจะสามารถคว้าส่วนแบ่งได้เท่ากัน ด้วยบทเรียนจากประสบการณ์ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก วินฟาสต์ใช้อินไซต์จากลูกค้าเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยสำคัญหนึ่งคือค่าใช้จ่าย
วินฟาสต์เชื่อว่าบริการแบตเตอรี่รถไฟฟ้าในระบบสมัครสมาชิกของบริษัทซึ่งจะเตรียมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดยวินฟาสต์จะจำหน่ายรถยนต์ที่ไม่ได้ติดตั้งแบตเตอรี่ และผู้ซื้อรถสามารถเช่าแบตเตอรี่โดยจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นรูปแบบที่วินฟาสต์ใช้มาแล้วในอินโดนีเซีย ด้วยการแยกแบตเตอรี่ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้าออกจากตัวรถ วินฟาสต์เชื่อว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายก้อนแรกในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมาก และลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการใช้รถ EV สู่ระดับที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
บริษัทยังมีนโยบายหลังการขายที่ดีเยี่ยม ด้วยการบำรุงรักษาและการเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรีเมื่อพบว่าความจุของแบตเตอรี่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (หรือ 70% ของความจุเดิม) เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่มีสมรรถนะที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน
นายนธี กองเกตุใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นทียูนิตี้ มอเตอร์ จำกัด หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายวินฟาสต์ กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นในการให้บริการหลังการขายที่เป็นเลิศนี้จะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของวินฟาสต์ในการดึงดูดลูกค้าชาวไทย และประสบความสำเร็จในประเทศไทย” ด้วยฐานธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทรถยนต์หน้าใหม่จากเวียดนามรายนี้เชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์ในระดับโลกและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดโลคอล วินฟาสต์พร้อมจะเดินหน้าสู่ความสำเร็จในตลาดศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนแห่งนี้ได้ไม่ยากนัก
Previous Article
Next Article
You May Also Like
CHANGAN เปิดบ้านนครฉงชิ่ง โชว์เทคโนโลยีล้ำสมัย ให้กับ “บอร์ดทีทีบี”
อ่านเพิ่มเติม
ส่อง Toyota Camry ปี 2025 ก่อนเปิดตัวในออสเตรเลีย
อ่านเพิ่มเติม
MILLENIUM AUTO GROUP จัดกิจกรรม ‘A MAY ZING DEALS’ ตลอดเดือนพฤษภาคม 2567
อ่านเพิ่มเติม
IONIQ 5 N คว้ารางวัลรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตู จาก 2024 TopGear.com Electric Awards
อ่านเพิ่มเติม
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Menu
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us