Porsche นำเสนอยนตรกรรมสปอร์ตให้ชมถึง 12 รุ่น พร้อมเปิดตัว 911 GT3 RS ในงาน Motor Show 2024

Share on facebook
Share on twitter

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป เปิดตัว 911 GT3 RS พร้อมนำเสนอรถยนต์หลากหลายรุ่นเท่าที่เคยมีมาในงาน Motor Show 2024 ตั้งแต่รถสปอร์ต 2 ประตู รุ่น 911 และ 718 และ รถสปอร์ต 4 ประตู พานาเมร่า (Panamera) และไทคานน์ (Taycan) รวมทั้ง คาเยนน์(Cayenne) และมาคันน์(Macan) รถเอสยูวี (SUV) สายลุย

Porsche 911 GT3 RS

หนึ่งในไฮไลท์อันโดดเด่น รถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ถ่ายทอด DNA ของรถแข่งPorsche อย่างแท้จริง มุ่งเน้นไปที่สมรรถนะอันสูงสุด มาพร้อมพละกำลังอันทรงพลัง 386 กิโลวัตต์ (525 แรงม้า) เครื่องยนต์ที่หมุนรอบสูงตามธรรมชาติ ผสานกับโครงสร้างน้ำหนักเบาอัจฉริยะ พร้อมระบบระบายความร้อนและแอโรไดนามิกของ 911 GT3 RS ที่มี DNA จากมอเตอร์สปอร์ตอย่าง 911 GT3 R
ระบบระบายความร้อนของ 911 GT3 RS นั้นมีความต่างกับรถสปอร์ตทั่วไป โดยการวางหม้อน้ำไว้กลางตัวรถเพื่อช่วยกระจายความร้อนได้ทั่วถึงทั้งเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เย็นลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกทั้งยังช่วยให้อากาศไหลเวียนผ่านเครื่องยนต์ได้ดีขึ้นและช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถทำให้รถควบคุมได้ดีขึ้นซึ่งเปนนวัตกรรมมาจากรถแข่งรุ่นพี่อย่าง 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเลอมังส์ (Le Mans) และต่อมาใน 911 จีที 3 อาร์ (911 GT3 R) แนวคิดนี้ละทิ้งวิธีการแบบดั้งเดิมคือใช้หม้อน้ำแบบ 3 ใบ และหันมาใช้หม้อน้ำขนาดใหญ่เพียงใบเดียว วางทำมุมตรงจมูกรถ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ช่องเก็บสัมภาระของ 911 สำหรับรุ่นอื่นๆการออกแบบวิธีนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างด้านข้าง ช่วยให้สามารถติดตั้งองค์ประกอบแอโรไดนามิกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จากเทคโนโลยีระบบแอโรไดนามิก องค์ประกอบของช่องรับลมด้านหน้าและด้านหลังสามารถปรับได้ ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันองค์ประกอบเหล่านี้สามารถสร้างแรงกดที่ 409 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้ 911 จีที 3 อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ สามารถสร้างแรงกด (Downforce) ได้มากเป็น 2 เท่าของรุ่นก่อนหน้าอย่าง 991.2 และมากเป็น 3 เท่าจากรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ที่ความเร็ว 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแรงกดรวมถึง 860 กิโลกรัม
เป็นครั้งแรกที่Porsche ได้ติดตั้งระบบลดแรงต้าน Drag Reduction System (DRS) เพื่อตอบโจทย์ในการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงในเส้นทางตรงของสนามแข่ง ระบบ Drag Reduction System (DRS) นั้นจะทำให้ช่องลม เป็นแนวระนาบทันทีที่กดปุ่ม ในช่วงการทำงานที่กำหนดไว้ เมื่อมีการเบรกในขณะที่ใช้ความเร็วสูง จะมีฟังก์ชั่นพิเศษเข้ามาช่วย โดยการเปิดช่องลมด้านหน้าและด้านหลังให้กว้างที่สุด เพื่อที่จะลดแอโรไดนามิก ส่งผลให้การทำงานของเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น
911 จีที 3 อาร์เอส (911 GT3 RS) มาพร้อมกับการขับขี่3 โหมดได้แก่ Normal, Sport และ Track และสำหรับโหมด Track สามารถปรับ Setting ระบบต่างๆแยกกันได้หนึ่งในนั้นคือระบบช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลังสามารถปรับแต่งให้ต่างกันได้ในส่วนของระบบเฟืองท้ายสามารถปรับได้โดยการควบคุมผ่านสวิตซ์ควบคุมแบบหมุนที่พวงมาลัยการทำงานถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นการออกแบบที่พัฒนามาจากมอเตอร์สปอร์ตซึ่งบนพวงมาลัยจะถูกติดตั้งด้วยปุ่มควบคุมแบบหมุน4 ตัวและปุ่มกดDrag Reduction System (DRS) หรือเรียกว่าปุ่มระบบลดแรงต้าน
เครื่องยนต์ชนิดรอบจัดขนาด4.0ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศที่ออกแบบมาอย่างลงตัวกับ 911 GT3 สามารถสร้างแรงม้าได้ 386 kW (525 PS) โดยมีการออกแบบรูปแบบของเพลาลูกเบี้ยวใหม่, ท่อร่วมไอดีแบบแยกเดี่ยวและวาล์วไอดีที่ถ่ายถอดการออกแบบมาจากสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ต ระบบเกียร์ PDK7 สปีดมีอัตราทดเกียร์โดยรวมสั้นกว่า 911 GT3 และช่องอากาศเข้าที่ใต้ท้องรถช่วยให้แน่ใจว่าระบบส่งกำลังสามารถรับน้ำหนักได้มากแม้ในระหว่างการใช้งานบนสนามแข่งอย่างหนักหน่วง 911 GT3 RS สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โครงสร้างน้ำหนักเบาเป็นหลักการพื้นฐานของรุ่น RS ทุกรุ่นนับตั้งแต่ 911 Carrera RS 2.7 ด้วยกลยุทธ์การลดน้ำหนักที่หลากหลาย เช่น การใช้วัสดุ CFRP แทนชิ้นส่วนต่างๆ ในรถหลากหลายชิ้น ทำให้ลดน้ำหนัก 911 GT3 RS ลงเหลือ 1,450 และวัสดุ CFRP ยังถูกนำมาใช้ภายในห้องโดยสารด้วย เช่น เบาะนั่งมาตรฐานแบบ full bucket

Porsche Macan S
เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V6 ขนาด 2.9 ลิตร 380 แรงม้า ขับเคลื่อนจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร ใช้เวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 259 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรุ่นเริ่มต้นของมาคันน์ เริ่มจากเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบชาร์จกำลัง 195 กิโลวัตต์ (265 แรงม้า) ทำอัตราเร่งมาตรฐาน 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 232 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ทั้งหมดทำงานควบคู่กับระบบส่งกำลังคลัตช์คู่ (PDK) ของ Porsche 7 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Porsche Traction Management (PTM)

The Porsche Taycan
สปอร์ตซาลูน 4 ประตู เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ผสมผสานความเป็นPorsche Porsche ไทคานน์ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของPorsche ที่ใช้ระบบไฟฟ้าแรงดันสูง 800 โวลต์ แทนที่จะเป็น 400 โวลต์ทั่วไป ทำให้สามารถชาร์จพลังงานจาก 5 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ SoC (State of Charge) ได้ภายในเวลาเพียง 22.5 นาทีโดยใช้เครื่องชาร์จพลังงานไฟฟ้าสูง หรือเพียงชาร์จ 10 นาที ก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร Porsche ยังพัฒนา พร้อมนำเสนอ Taycan Cross Turismo สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูลไทคานน์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบกันสะเทือนแบบถุงลมแบบปรับได้ เหมาะสำหรับการขับขี่บนทุกสภาพถนนรวมถึงเส้นทางออฟโรด การเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะสำหรับผู้โดยสารเบาะหลังสูงสุด 47 มิลลิเมตร และความจุในการบรรทุกมากกว่า 1,200 ลิตร และในรุ่นเทอร์โบ (Turbo) สามารถสร้างพละกำลังได้สูงสุดถึง 680 แรงม้าโอเวอร์บูสต์ผสมผสานกับ Launch Control เร่งจาก 0 ไป 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 3.3 วินาที

Porsche Panamera
รถซาลูนในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยีไฮบริด E-Performance ด้วย Panamera E-Hybrid ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V6 ขนาด 2.9ลิตร กำลัง 243กิโลวัตต์ (330 แรงม้า) ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อนมีพลังรวม 340 กิโลวัตต์ (462 แรงม้า)

Porsche Thailand
เป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เปิดตัวชุดแต่งเสริมสมรรถนะ Manthey Performance Kitสำหรับ 911 GT3 ช่วยลดเวลาต่อรอบบนสนาม Nürburgring Nordschleife ลงได้ 4.19 วินาที เมื่อเทียบกับรุ่นมารตรฐาน 911 GT3 และเปิดตัวชุดแต่ง Manthey สำหรับ 718 Cayman GT4RS ความร่วมมือกับ Manthey-Racing ส่งผลให้ใช้เวลาบนสนาม Nürburgring Nordschleife เร็วขึ้น 6.179 วินาที เมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน 718 Cayman GT4RS

รายชื่อยนตรกรรมสปอร์ต Porsche ทั้งหมดที่จะจัดแสดงภายในงานมีดังต่อไปนี้
1. Porsche 911 GT3 RS ราคาเริ่มต้น 25.9 ล้านบาท
2. Porsche 911 Turbo S Cabriolet ราคาเริ่มต้น 25.8 ล้านบาท
3. Porsche 911 GT3 Manthey Performance Kits ราคาเริ่มต้นที่ 20.4 ล้านบาทและชุดแต่งเสริมสมรรถนะ Manthey Performance Kit ราคาเริ่มต้นที่ 1,999,999 บาท
4. Porsche 911Carrera T ราคาเริ่มต้นที่ 12.1 ล้านบาท
5. Porsche 718 Cayman Style Edition ราคาเริ่มต้นที่ 6.55 ล้านบาท
6. Porsche Taycan Turbo Cross Turismo พร้อมชุดแต่ง Tequipment ราคาเริ่มต้น 10.4 ล้านบาท
7. Porsche Taycan ราคาเริ่มต้น 6.45 ล้านบาท Porsche ไทคานน์คันนี้ได้รับการตกแต่งด้วยสติกเกอร์สุดพิเศษเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 45 ปีของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
8. Porsche Panamera 4 E-Hybrid Platinum Edition ราคาเริ่มต้นที่ 7.79 ล้านบาท
9. Porsche Panamera 4 E-Hybrid Executive ราคาเริ่มต้นที่ 7.85 ล้านบาท
10. Porsche Cayenne E-Hybrid Coupe ที่มาพร้อมออพชั่น Lightweight SportPackage และสีพิเศษ Paint-to-Sample (PTS) ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท
11. Porsche Cayenne E-Hybrid ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท
12. Porsche Macan S ราคาเริ่มต้นที่ 5.89 ล้านบาท

พบกับ Porsche ได้ในงาน Motor Show 2024 บูธของPorsche ได้ที่ชาเลนเจอร์ 2 บูธ A15