New Mitsubishi Xpander 2022 – เปลี่ยนครั้งใหญ่ Premium สุดในกลุ่มแล้ว  

Share on facebook
Share on twitter

การมาครั้งนี้ของ Mitsubishi Xpander ถือว่าไม่ธรรมดา ตามหลักการก็จะเรียนเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบ Minor Change ง่ายๆคือเปลี่ยนแค่บางจุดเท่านั้นซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สำหรับ Mitsubishi Xpander จะเรียกแบบนั้นก็คงไม่ใช่ เรียกว่า Big Minor Change ไปเลยดีกว่าเพราะเปลี่ยนเยอะจริง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมไม่มาแบบนี้ตั้งแต่แรก - รุ่น GLS-LTD ราคา 799,000 บาท (เพิ่มจากรุ่นเดิม 10,000 บาท)
- รุ่น GT ราคา 895,000 บาท (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 32,000 บาท)

*** รถที่สามารถเปรียบเทียบได้จะมี ***
- Suzuki Ertiga ราคา 659,000 – 725,000 บาท
- Suzuki XL7 ราคา 799,000 บาท
- Toyota Veloz ราคา 795,000 – 875,000 บาท

ขอเสียของคันนี้หลักๆเลยคือราคาจะสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Suzuki XL7 หรือ Toyota Veloz อยู่พอสมควร แต่ถ้ามองอีกด้านคือทาง Mitsubishi Thailand แจ้งมาว่าถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแต่รถ Mitsubishi Xpander ใน Segment นี้ถือว่าขายดีที่สุดตั้งแต่เปิดมาเมื่อประมาณสองปีที่แล้วนะครับ

ภายนอกเป็นจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยสุด ส่วนตัวแล้วถ้าเอามาเทียบกับตัวก่อนก็ยังพอเห็นบ้างนะว่าแตกต่างกันตรงไหน แต่ถ้าเปรียบเทียบเมื่อขับบนถนนจริงๆก็อาจจะยากหน่อย Mitsubishi Xpander เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วจะไปในทางไม่เหมือนกันเพราะเจ้านี้เน้น Premium เป็นหลัก ก็ต้องยอกรับว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่แปลกเลยว่าจุดนี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเยอะ คุณคิดว่ายังไงบ้างครับ ควรเปลี่ยนตรงไหนบ้างสำหรับภายนอก

ภายในบอกเลยว่าควรเปลี่ยนมากๆ และเค้าก็ทำแบบนั้นครับ เพราะถ้าคุณดูภายในของตัวก่อนกับตัวนี้จะตกใจเลย เหมือนไม่ใช่ Xpander ดูหรูขึ้นเยอะ ไม่ได้อวยนะ Dashboard กับ Console ลงตัวอยู่ หน้าจอก็ใหญ่ แต่จุดที่น่าสนใจคือจากที่ได้ไปทดสอบคันนี้คือหน้าจอ Entertainment มันจะสะท้อนหรือ reflect กับแสงข้างนอกจนทำให้มองไม่ค่อยชัด เวลาใช้งานอาจจะต้อง Focus กับมันหน่อยนะครับ ส่วนช่อง USB จะไม่มีแบบ Type C ก็น่าเสียดาย สุดท้ายคือเรื่องระบบความปลอดภัย เมื่อเทียบแล้วโดยเฉพาะกับ Veloz จะไม่มี Blind Spot หรือระบบเตือนให้รถอยู่ในเลนมาให้ ผมว่าสองระบบนี้สำคัญเพราะเป็นระบบที่จะใช้บ่อยหน่อย นอกเหนือจากนั้นผมโอเคเลยนะสำหรับคันนี้

การขับขี่เป็นปัจจัยสำคัญมากๆ การที่คันนี้เปลี่ยนเป็นเกียร์ CVT บอกเลยว่าเห็นผลได้อย่างชัดเจน การเร่งดีขึ้นนะแต่ถ้าไปได้เร็วและแรงกว่านี้จะดีมากเลย ความเร็วต้นไปถึงกลางทำรอบได้ดี ส่วนช่วงความเร็วสูงจะใช้เวลาหน่อยแล้วที่สำคัญจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ชัดมาก (XL7 และ Veloz ก็เป็นเช่นกัน) เรียกว่าแรงกว่า XL7 แต่สู้ Veloz ยังไม่ได้ การเกาะถนนถือว่าใช้ได้รู้สึกมั่นใจอยู่ แต่ก็อยู่ที่ความเร็วของเราด้วยนะครับ ถ้าขับแบบปกติเช่น 60-80 กม./ชม. ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าขับ 100 กม./ชม. ขึ้นไปก็จะมีอาการโยนๆเอาไม่ค่อยอยู่หน่อย จริงๆก็เป็นเรื่องปกติกับรถกลุ่ม MPV อยู่แล้วครับ

พวงมาลัยจะมีน้ำหนักหน่อยใครที่ชอบแบบหนักๆแกร่งๆก็จะถูกใจแน่นอน การควบคุมถือว่าใช้ได้เลยนะ มั่นใจได้ แต่ตรงด้านล่างของพวงมาลัยซึ่งปกติจะเป็นช่องว่าง ของ Xpander จะปิดไว้เค้าบอกว่าเป็นการออกแบบ สำหรับผมจะไม่ค่อยชอบเพราะรู้สึกติดๆเวลาควบคุมพวงมาลัยครับ

เบาะนั่งสบายดีนะ ไม่ได้กระชับหรือล็อคตัวอะไรแต่เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมากครับ จากที่ได้ขับจากกรุงเทพไปแกร่งกระจานรวมแล้วประมาณ 4 ชั่วโมงเพราะรถติด ที่รู้สึกได้จริงๆคือมีอาการเมื่อยเพราะนั่งนานเกินไป ยังไงแนะนำให้จอดแวะพักยืดเส้นกันด้วยนะครับ

*** จากที่ได้ทดลองมาผมขับไปประมาณ 485 km อัตราสิ้นเปลืองที่ได้จะอยู่ที่ 14.5 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีอยู่เลย สุดท้ายแล้วอยู่ที่การขับครับ ถ้าเราเน้นแบบ Sport เร่งเอาแบบไม่หยุดแบบถนนโล่งคือเร่ง Kickdown บ้าง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ตัวเลขแบบนี้แน่นอน เพราะช่วงแรกผมลองทำแบบนั้นแล้วได้ตัวเลขประมาณ 13 กิโลเมตร/ลิตร แต่ช่วงหลังๆก็จะขับเรื่อยๆแบบไม่ได้เร่งหนักมากเท่าไหร่ครับ

ท่านใดที่รอ Mitsubishi Xpander Cross อีกไม่นานมาแน่ครับ แต่จากที่ทราบมาคือจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรเยอะเหมือนกับ Xpander คันนี้นะครับ หลักๆคือเปลี่ยนโทนสีให้เป็นสีน้ำเงิน แต่อันนี้รอทาง Mitsubishi ประกาศอย่างเป็นทางการกันก่อนนะครับ