Search
Close this search box.

Honda CR-V 2023 เจน 6 เปิดตัวแล้วในอเมริกา e:HEV ไฮบริด 2.0 ลิตร 204 แรงม้า ไทยลุ้นปลายปี

All NEW Honda CR-V 2023 เผยโฉมแล้วในอเมริกา ขุมพลัง e:HEV ไฮบริด 2.0 ลิตร 204 แรงม้า และเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 190 แรงม้า ปรับดีไซน์เฉียบคมกว่าเดิม ในประเทศไทยคาด พบตัวจริงในงานใหญ่อย่าง Motor Expo 2022 ปลายปีนี้

Honda USA ได้เปิดตัวอย่างเป็นของ All-New Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่ 6 รถ Compact Crossover SUV ซึ่งตลาดของ รถครอสส์โอเวอร์ SUV กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ ครั้งนี่ มีการ ปรับดีไซน์เน้นความสปอร์ตยิ่งขึ้น เน้นความสมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และ e:HEV ไฮบริด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงสุดเท่าที่เคยมีมาในรุ่น CR-V
Honda CR-V ถูกพัฒนาต่อเนื่อง จนมาถึง เจนเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรถกระบะ Honda Ridgeline และ SUV ขนาดใหญ่อย่าง Passport TrailSport ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มาพร้อมตัวถังที่มีขนาดยาวขึ้น 2.7 นิ้ว กว้างขึ้น 0.4 นิ้ว และความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น 1.6 นิ้ว พร้อมทั้งเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังขึ้นอีก 15% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งและการยึดเกาะถนน

All-New Honda CR-V มีมิติตัวถัง ยาว 4,694 มิลลิเมตร, กว้าง 1,864 มิลลิเมตร, สูง 1,692 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร โดยมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม Honda CR-V เจนเนอเรชันที่ 5 ที่มีมิติตัวถังยาว 4,571 มิลลิเมตร, กว้าง 1,855 มิลลิเมตร, สูง 1,689 มิลลิเมตร, และระยะฐานล้อ 2,662 มิลลิเมตร Honda CR-V
ขณะที่มิติตัวถังของคู่แข่งอย่าง Mazda CX-5 (2019) มีความยาว 4,550 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,840 มิลลิเมตร ความสูง 1,680 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร มีการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังขึ้นอีก 15% ทำให้มีความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ในสหรัฐอเมริกา มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Honda CR-V รุ่น EX, EX-L ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ตามด้วยรุ่น Sport และ Sport Touring พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร โดยทุกรุ่นถูกติดตั้งไฟหน้าแบบ LED และไฟท้ายแบบ All-LED ดีไซน์รูปตัว L เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ขณะที่รุ่น Sport และ Sport Touring จะเน้นความดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าทรงรังผึ้งสีดำเงา, ปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงเหลี่ยม และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในรุ่น Sport Touring (รุ่นอื่นๆ มีขนาด 18 นิ้ว)
งานออกแบบห้องโดยสารถอดแบบมาจาก Honda Civic รุ่นล่าสุด หน้าจออินโฟเทนเมนท์ของขนาด 7 นิ้ว ในรุ่น EX และ Sport หรือขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น EX-L และ Sport Touring สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายได้ (รุ่น EX และ Sport ต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB)
ทุกรุ่นด้านหน้าจะมีช่องชาร์จไฟแบบ USB-A และ USB-C มาให้อย่างละ 1 จุด ขณะที่รุ่น EX-L และ Sport Touring จะเพิ่มด้วยช่องจ่ายไฟแบบ USB-C อีก 2 จุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และถาดชาร์จสมาทโฟนแบบไร้สาย ขนาด 15W มาให้ด้วย ในรุ่น Top สุดอย่าง Sport Touring ติดตั้งระบบเสียง Bose ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อมเทคโนโลยี Bose Centerpoint และ SurroundStage ทำให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่งได้รับประสบการณ์ฟังเสียงเพลงอันยอดเยี่ยม

Honda CR-V รุ่น EX และ EX-L จะเริ่มทำตลาดก่อน ขุมกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร( 24.7 กก.-ม.) ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT มีโหมดในการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ECON, Normal และ Snow
รุ่น Sport และ Sport Touring จะใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวแรกทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ และอีกตัวทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บเอาไว้ในแบทเตอรี
ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด335 นิวตัน-เมตร( 34.1 กก.-ม. ) ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า หรือ E-CVT โหมดในการขับเลือกได้ 4 โหมด ได้แก่ ECON, Normal, Snow และ Sport ทุกรุ่นมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Real Time AWD

Honda CR-V รุ่น EX และ EX-L จะเริ่มทำตลาดก่อน ขุมกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร( 24.7 กก.-ม.) ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT มีโหมดในการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ECON, Normal และ Snow
รุ่น Sport และ Sport Touring จะใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวแรกทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ และอีกตัวทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บเอาไว้ในแบทเตอรี
ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด335 นิวตัน-เมตร( 34.1 กก.-ม. ) ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า หรือ E-CVT โหมดในการขับเลือกได้ 4 โหมด ได้แก่ ECON, Normal, Snow และ Sport ทุกรุ่นมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Real Time AWD

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง และการยึดเกาะถนน All-New Honda CR-V จัดเต็มระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่ทำงานผ่านกล้องมุมกว้าง 90 องศา และเรดาร์รัศมี ครอบคลุม 120 องศา ด้านหน้ารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับรถยนต์ และคนเดินถนนได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเส้นแบ่งถนน, ขอบทาง, ผู้ใช้จักรยาน และจักรยานยนต์ รวมถึงป้ายสัญญาณจราจร
ระบบ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Traffic Jam Assist (TJA), ระบบ Low-Speed Braking Control เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรคที่ความเร็วต่ำ และระบบ Traffic Sign Recognition (TSR), Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow ที่ทำงานร่วมกับ Lane Keeping Assist ทำให้ระบบช่วยในการขับขี่สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น

All-new Honda CR-V 2023 ที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา สำหรับในประเทศไทยนั้น ยังไม่ได้การยืนยันจากบริษัทแม่โดยตรง แต่อีกไม่นานเกินรอ แต่คาดว่าจะได้พบปะตัวจริงของรุ่นนี้ ในช่วงปลายปีนี้แน่ ในงานมหกรรมรถยนต์ใหญ่ อย่าง Motor Expo 2022 และจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าได้ต้นปี 2023 ต้องอดใจรอกันหน่อยครับ