Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Menu
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Search
Search
Close this search box.
Search
Search
Close this search box.
ยอดขายรถพ.ค. รถเก๋งพุ่ง 29.4% เกินคาดจาก ECO Car แต่กลุ่มอื่น-ปิคอัพ ชะลอตัวหมด ยอดรวม 5 เดือน 341,691 คัน
June 23, 2023
Youtube
สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ด้วยยอดขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขาย 25,985 คัน เติบโตถึง 29.4% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ECO Car มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 12.4% ด้วยยอดขาย 39,103 คัน รถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 19.2% และยอดขาย 27,323 คัน
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ด้วยยอดขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขาย 25,985 คัน เติบโตถึง 29.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยตัวเลขการขาย 39,103 คัน ลดลง 12.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ชะลอตัวเช่นกันที่ 27,323 คัน ลดลง 19.2%
ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเป็นเซกเมนต์สำคัญที่ผลักดันการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์เดือนนี้ที่ 29.4% ด้วยยอดขาย 25,985 คัน ในขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 12.4% ด้วยยอดขาย 39,103 คัน ในส่วนของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 19.2% และยอดขาย 27,323 คัน เป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เพื่อรอความชัดเจนทางด้านนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ECO Car มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวของประชาชนภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด
ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน ยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง จากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ยังดำเนินต่อไป รวมทั้งความมั่นใจของผู้บริโภคที่ยังไม่ดีขึ้น ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่มีความกังวลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการผ่อนชำระของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ที่ต้องการความคล่องตัวทางเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,296 คัน ลดลง 4.0% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,281 คัน ลดลง 15.6% ส่วนแบ่งตลาด 20.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,697 คัน เพิ่มขึ้น 33.0 % ส่วนแบ่งตลาด 10.3%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,985 คัน เพิ่มขึ้น 29.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,266 คัน เพิ่มขึ้น 43.2% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,415 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% ส่วนแบ่งตลาด 17.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,506 คัน ลดลง 27.5 % ส่วนแบ่งตลาด 5.8%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,103 คัน ลดลง 12.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,281 คัน ลดลง 15.6.% ส่วนแบ่งตลาด 34.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 13,030 คัน ลดลง 20.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,993 คัน เพิ่มขึ้น 32.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 27,323 คัน ลดลง 19.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 12,131 คัน ลดลง 14.5% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,205 คัน ลดลง 26.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,993 คัน เพิ่มขึ้น 32.1% ส่วนแบ่งตลาด 11.0%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,896 คัน
อีซูซุ 2,076 คัน – โตโยต้า 1,568 คัน -ฟอร์ด 707 คัน – มิตซูบิชิ 460 คัน – นิสสัน 85 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,427 คัน ลดลง 23.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 10,055 คัน ลดลง 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 44.8%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 8,637 คัน ลดลง 27.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,286 คัน เพิ่มขึ้น 24.8 % ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 341,691 คัน ลดลง 4.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 115,982 คัน ลดลง 4.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 73,776 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 39,067 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 123,754 คัน เพิ่มขึ้น 6.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 43,630 คัน เพิ่มขึ้น 32.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 25,984 คัน ลดลง 4.0% ส่วนแบ่งตลาด 21.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,227 คัน ลดลง 9.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 217,937 คัน ลดลง 10.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 73,776 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 72,352 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 16,902 คัน เพิ่มขึ้น 39.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 155,613 คัน ลดลง 18.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 67,533 คัน ลดลง 18.4% ส่วนแบ่งตลาด 43.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 59,741 คัน ลดลง 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 16,902 คัน เพิ่มขึ้น 39.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.9%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 28,067 คัน
โตโยต้า 10,201 คัน - อีซูซุ 9,946 คัน – ฟอร์ด 5,106 คัน – มิตซูบิชิ 2,290 คัน – นิสสัน 524 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 127,546 คัน ลดลง 22.6%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 57,587 คัน ลดลง 23.5% ส่วนแบ่งตลาด 45.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 49,540 คัน ลดลง 23.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,796 คัน เพิ่มขึ้น 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%
Previous Article
Next Article
You May Also Like
NISSAN พร้อมส่งมอบ SERENA e-POWER ให้กับลูกค้ากลุ่มแรก
อ่านเพิ่มเติม
รีวิว LEAPMOTOR C10 รถครอบครัวที่มีพื้นที่กว้างมาก
อ่านเพิ่มเติม
GWM ORA Good Cat มาในลุคใหม่ “สีขาวหลังคาสีดำ พร้อม Black Package”
อ่านเพิ่มเติม
EV PRIMUS เดินหน้าโรงงานเต็มสูบ เร่งส่งมอบ WULING Binguo EV ให้ถึงมือลูกค้า
อ่านเพิ่มเติม
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us