Search
Close this search box.

Mercedes- SUV 2023  ไฟฟ้า 100% วิ่งไกลสุด 590 กม. แรงสุด 687 แรงม้า มีลุ้นขายไทย

💥💥 Mercedes-Benz เปิดตัว EQE SUV รถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการ วิ่งไกลสุด 590 กม. พร้อมขนรุ่น AMG EQE SUV รถเอสยูวีขุมพลังไฟฟ้า 100% สมรรถนะ 687 แรงม้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที

📕📕 Mercedes-Benz เปิดตัว The All NEW EQE SUV รถไฟฟ้า100% แบบเอนกประสงค์ SUV ออกมาเป็นรุ่นล่าสุด ในตระกูล Mercedes-EQ ซึ่งเป็นการเปิดตัว SUV ไฟฟ้าลำดับที่ 5 ต่อจาก EQS SUV ที่เผยโฉมไปเมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา ส่วนตัวถังแบบซีดานของ EQE เปิดตัวเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ปีนี้เช่นเดียวกัน โดยมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นปกติ และตัวแรงจาก Mercedes-AMG

📌📌 การเปิดตัว Mercedes-Benz EQ-series กันไปแล้วหลายรุ่น รวมถึง 2022 Mercedes-Benz EQE ตัวถังซีดาน คราวนี้ถึงคราวของ Mercedes-Benz EQE SUV (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวอี เอสยูวี) ที่มีแผนเปิดขายในปี 2023 ได้ถูกทดสอบในถนนประเทศเยอรมัน
EQE SUV พื้นฐานตัวรถเช่นเดียวกันกับ Mercedes-Benz EQS คือ MEA (Modular Electrical Architecture) ซึ่งเป็นพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สามารถปรับแต่งตามขนาดของตัวรถที่ต้องการได้ ตามขนาดของ EQE ซีดาน รถคันนี้น่าจะถูกวางเป็นคู่แข่งกับ Tesla Model X และ BMW iX

👨‍🔧👨‍🔧 Mercedes-Benz EQE SUV เปิดตัวออกมา มี 3 รุ่นคือ EQE 350+, EQE 350 4Matic และ EQE 500 4Matic โดย 2 รุ่นแรกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังออกมา 215 kW หรือ 288 แรงม้าเท่ากัน แต่ EQE 350+ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยล้อหลังมีแรงบิดสูงสุด 565 นิวตัน-เมตร ในขณะที่ EQE 350 4Matic ซึ่งขับเคลื่อนด้วยล้อทั้ง 4 ของรถมีแรงบิดสูงสุด 765 นิวตัน-เมตร ขณะที่มอเตอร์ใน EQE 500 4Matic ซึ่งขับเคลื่อนทุกล้อของรถมีกำลัง 300 kW หรือ 402 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร
Mercedes-Benz ระบุว่า EQE SUV ใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน 10 โมดูล ที่พัฒนาขึ้นมาเองภายในโดยไม่ได้ระบุความจุของแบตเตอรีที่อยู่ในรถเอาไว้ แต่บอกว่าสามารถใช้ระยะการเดินทางได้ถึง 590 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ในรุ่น EQE 350+ ส่วน EQE 350 4Matic เดินทางได้ถึง 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และ EQE 500 4Matic เดินทางได้ 547 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน WLTP โดยแบตเตอรีรองรับเครื่องไฟชาร์จมาตรฐาน 11 kW และเครื่องชาร์จไฟที่เป็นอุปกรณ์เสริม 22 kW รวมไปถึงรองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรงได้ถึง 170 kW ซึ่งทำให้สามารถเดินทางได้ 220 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟแบบเร็ว 15 นาที
ห้องโดยสารของรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จะมีจอ Hyperscreen เต็มความกว้างของแผงแดชบอร์ดเป็นออฟชันให้เลือกติดได้ รวมไปถึงระบบเสียง Dolby Atmos และระบบกรองอากาศ HEPA นอกจากนี้ยังมีระบบนำทางที่สามารถกำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการแวะชาร์จไฟระหว่างทางได้ รวมไปถึงมีเทคโนโลยีไฟหน้า Mercedes Digital Light ให้เลือกซึ่งจะมีการฉายไฟเป็นสัญลักษณ์เตือนต่างๆ บนถนนข้างหน้าเพื่อเตือนผู้ขับ และมีเสียงที่เรียกว่า Serene Breeze ที่ให้ความผ่อนคลายในห้องโดยสาร

✴️✴️ ส่วนตัวแรง Mercedes-AMG EQE SUV 2024 มีให้เลือกทั้ง EQE 43 4MATIC SUV และ EQE 53 4MATIC+ SUV ที่มาพร้อมแพ็คเกจ AMG Dynamic Plus ที่จะช่วยเสริมความร้อนแรงพร้อมรีดพละกำลังออกมาได้มากถึง 687 แรงม้า ภายนอกของ Mercedes-AMG EQE SUV EV ตัวแรงนี้จะมาพร้อมกระจังหน้าแบบปิดทึบที่ออกแบบด้านในให้มีลวดลายที่เป็นตะแกรงโครเมียมแนวตั้ง ตรงกลางติดตั้งโลโก้ดาวสามแฉก ขณะที่ฝากระโปรงหน้าติดตราสัญลักษณ์ของทาง AMG พร้อมตกแต่งชิ้นส่วนพาร์รอบคันที่เป็นชิ้นงานสีดำ
ชุดล้ออัลอยจะมีขนาด 21 นิ้ว เป็นชุดมาตรฐาน แต่สามารถเลือกขนาด 20 หรือ 22 นิ้วได้ ส่วนยางเป็นของทาง Michelin Pilot Sport EV MO1 ระบบกบรกติเตั้งชุดคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 สูบและดิสก์เบรกขนาด 415 × 33 มม. ที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์เบรกสูบเดี่ยวและดิสก์เบรกขนาด 378 × 22 มม. ที่ด้านหลัง นอกจากนี่ยังมีเบรกเซรามิกเป็นอุปกรณ์เสริม รวมถึงระบบเบรกไฟฟ้า “iBooster” ที่ปรับแต่งโดย AMG
ห้องโดยสาร ตกแต่ด้วยหนังเทียมผสมไมโครไฟเบอร์ แต่ถ้าต้องการความหรูหราก็มีหนัง Nappa ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้า แผงคอนโซลหน้าติดตั้งพวงมาลัยท้ายตัด AMG Performance รวมถึงกาตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ตามจุดต่าง ๆ มาพร้อหน้าจอ MBUX Hyperscreen ที่กว้างกว่า 141 ซม. ครอบคุลมตั้งแต่จอเรือนไมล์ และจออินโฟเทนเมนต์ รวมถึงทำงานร่วมกับกล้องจับใบหน้าคนขับ หากพบว่าคนขับหันหน้าไปมองจออื่นที่ไม่ใช่หน้ารถหรือเรือนไมล์ ระบบจะหรี่แสงจอลงโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย

🚔🚔 ขุมพลังของ Mercedes-AMG EQE SUV มากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่วางอยู่ั้งเพลาคู่ล้อหน้าและหลัง โดยในรุ่น EQE 43 4Matic SUV จะมีกำลังอยู่ที่ 476 แรงม้า แรงบิด 858 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม.
รุ่น EQE 53 4Matic+ SUV ในส่วนมเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับการปรับแต่และพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ทั้งขดลวด อินเวอร์เตอร์ โดยจะกระแสไฟให้สูงขึ้น ส่งผลทำให้รีดพละกำลังออกมาได้ากถึง 460 kW หรือประมาณ 626 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 950 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 220 กม./ชม.
รุ่น EQE 53 4Matic+ SUV ทาง Mercedes-AMG มีแพ็คเกจ AMG Dynamic Plus ติดตั้งเริมเพิ่มเข้ามาให้ โดยแพ็คเกจนี้จะเข้าไปทำการปลดล็อกในโหมด “Race Start” และ “Boost” ส่งผลทำให้เค้นพละกำลังออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 505 kW หรือ 687 แรงม้า พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม ลดลงจากเดิมเหลือเพียง 3.5 วินาที และความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นไปเป็น 240 กม./ชม.

🚔🚔 ด้านชุดแบตเตอรี่ทั้ง 2 รุ่นจะมากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 90.6 kWh แบบเดียวกันกับ EQE SUV โดยรุ่น EQE 43 ให้ระยะทางขับขี่อยู่ระหว่าง 431 – 488 กม. ส่วนในรุ่น EQE 53 จะให้ระยะทาง 375 – 470 กม.
ระบบช่วงล่าง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Matic/4MATIC+, ระบบคับเลี้ยวล้อคู่หลังเป็นมาตรฐาน, ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AMG Ride Control+ แบบปรับได้ด้วยไฟฟ้า และระบบ AMG Active Ride Control ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพและลดการโคลงของตัวรถ
รวมถึงมีโหมดปรับแต่งเสียงสังเคราะห์ AMG Sound Experience ที่จะส่งเสียงคำรามจากชุดท่อไอเสียเข้าไปในห้องโดยสาร ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดเสียงได้ทั้ง Balanced, Sport และ Powerful เพื่อความสะใจที่แตกต่างกัน

🚔🚔 Mercedes-Benz EQE SUV จะเริ่มผลิตในช่วงเดือน ธันวาคม 2565 ที่โรงงาน Tuscaloosa, Alabama สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกับที่ผลิต EQS SUV 7 ที่นั่ง มีความเป็นไปได้สูงในการทำตลาดที่เมืองไทย เพื่อมาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW iX และคาดว่า จะเปิดตัวหลังจากเปิดตัว EQE ตัวถังซีดาน ราคาจำหน่ายนั้นทาง Mercedes-AMG ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขราคาออกมา