FORD ประกาศ 10 ทีมสุดท้าย Ford Smart Mobility Challenge 2025 ชิงทุนพัฒนานวัตกรรมมูลค่า 840,000 บาท

ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (Population and Community Development Association - PDA) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Agency - NIA) และบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ประกาศผล 10 ทีม เยาวชนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในโครงการ 'Ford Smart Mobility Challenge 2025' เวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยโชว์พลังไอเดียสร้างสรรค์นวัตกรรมภายใต้แนวคิด 'ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออนาคตของการเดินทาง' (Driving Innovation to Power the Future of Movement) โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบจะได้รับการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะ และพัฒนาผลงานก่อนประชันกันในรอบตัดสินชิงทุนการศึกษารวมมูลค่า 840,000 บาท ในวันที่ 28 ตุลาคม 2568

โครงการ Ford Smart Mobility Challenge ได้รับการปรับชื่อจาก Ford Innovator Scholarship เพื่อสะท้อนแนวคิดการ ‘ขับเคลื่อน’ อันเป็นหัวใจสำคัญของฟอร์ด และสอดคล้องกับการพัฒนาทักษะเยาวชนที่ดำเนินการในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แล้ว โดยปีนี้เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม - 24 กันยายน และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักเรียนมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาทั่วประเทศ รวม 138 ทีม ที่ส่งผลงานพร้อมคลิปการนำเสนอเข้าประกวดอย่างสร้างสรรค์ โดยคณะกรรมการได้พิจารณาจากศักยภาพในการต่อยอดผลงานและการตอบโจทย์การยกระดับชุมชนและคุณภาพชีวิตของผู้คน ในสามมิติของการขับเคลื่อน ประกอบด้วย การเข้าถึงและส่งเสริมความหลากหลาย ความปลอดภัย และสุขภาพ-ความเป็นอยู่ที่ดี ก่อนคัดเลือก 10 ผลงานที่โดดเด่น โดยแบ่งตามระดับการศึกษา ดังนี้

ระดับมัธยมศึกษา 4 ผลงาน
1. นวัตกรรมผ้าปิดแผลรักษ์โลกจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จากโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ - ผ้าปิดแผลจากเส้นใยธรรมชาติเหลือใช้ทางการเกษตร เคลือบด้วยสารสกัดสมุนไพรท้องถิ่นที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดขยะและลดโลกร้อน
2. ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะบนพื้นที่เสี่ยง จากโรงเรียนวารีเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ - แพลตฟอร์มที่ใช้ข้อมูลดาวเทียมและ LLM (Large Language Model) หรือแบบจำลองปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประเภทหนึ่ง ในการวิเคราะห์การแพร่กระจายของไฟป่าและแจ้งเตือนผ่านสื่อสังคมออนไลน์
3. เครื่องตรวจคัดกรองโรคเบาหวานเบื้องต้น จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก - อุปกรณ์ตรวจวัดอะซิโตนในลมหายใจด้วยระบบเซนเซอร์เฉพาะ และสารสกัดฟ้าทะลายโจร ที่ให้ผลแบบทันที
4. BEDCARE จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ - เตียงอัจฉริยะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง มีระบบตรวจวัดอุณหภูมิ กลไกพลิกตัวอัตโนมัติ และระบบระบายความร้อนเฉพาะจุด

ระดับอาชีวศึกษา 3 ผลงาน
5. Smart Walk จากวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ - อุปกรณ์กายภาพบำบัดช่วยฟื้นฟูการเดินและป้องกันการหกล้มสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ควบคุมผ่านจอทัชสกรีนและแอปพลิเคชัน
6. เครื่องซีลผักและผลไม้สุญญากาศ จากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี - นวัตกรรมที่ใช้แรงดันน้ำแทนไฟฟ้า ช่วยรักษาความสดของผักได้นาน 1-2 สัปดาห์ ลดการสูญเสียในห่วงโซ่อาหาร
7. HKA จากวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ - เครื่องกายภาพบำบัดช่วยฟื้นฟูข้อต่อแบบ CPM กึ่งอัตโนมัติ ราคาประหยัด เหมาะสำหรับชุมชนที่อยู่ห่างไกลโรงพยาบาล

ระดับอุดมศึกษา 3 ผลงาน
8. Honeycomb Speed Bump จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ - ลูกระนาดอัจฉริยะโครงสร้างรังผึ้งที่ดูดซับแรงกระแทกและผลิตไฟฟ้าจากแรงกดทับ พร้อมผลิตไฟฟ้าให้กับไฟถนนและป้ายจราจรอัจฉริยะ
9. Graphene Battery From Leonardite Waste จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กรุงเทพมหานคร - แบตเตอรี่กราฟีนจากขยะลีโอนาร์ไดต์ของเหมืองถ่านหิน สร้างมูลค่าใหม่จากของเสียสู่พลังงานสะอาด
10. FloodNav จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร - ระบบนำทางอัจฉริยะสำหรับการกู้ภัยในเหตุการณ์อุทกภัย ใช้ AI วิเคราะห์เส้นทางที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด

"ฟอร์ด และพันธมิตรในโครงการฯ ขอแสดงความยินดีกับ 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในปีนี้ เราได้เห็นถึงพลังสร้างสรรค์ของเยาวชนไทยในการนำเสนอไอเดียนวัตกรรมที่มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับการนำแนวคิดเรื่อง ‘การขับเคลื่อน’ มาใช้เป็นหัวใจหลักการพัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิตประจำวัน ทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบจะได้รับประสบการณ์ที่มีค่า และได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปจากผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ที่จะช่วยวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาอย่างลงลึกและนำไปใช้ได้จริงในระยะยาว" เจน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการฟอร์ด ฟิแลนโธรพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว

ก่อนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 10 ทีมจะได้รับการฝึกอบรมพัฒนาทักษะจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับผลงานและเสริมแกร่งทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ ‘เทคนิคการผลิตสื่อยังไง ให้ปัง!!’ โดยทีวีบูรพา ‘Smart Mobility’ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด ที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยี และความท้าทายในโลกของการเคลื่อนที่อัจฉริยะ และ ‘STEAM 4 INNOVATOR’ จากผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่ร่วมเสริมสร้างรากฐานความคิดสร้างสรรค์ที่จะบ่มเพาะทักษะที่จำเป็นในการเป็นนวัตกรยุคใหม่

โครงการ Ford Smart Mobility Challenge 2025 จะมอบทุนการศึกษาแก่ผู้ชนะในชิงชนะเลิศ จำนวน 12 ทุน และทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงงานสำหรับสถาบันการศึกษา จำนวน 4 ทุน รวมทั้งสิ้น 840,000 บาท โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้ 10 ทีมสุดท้ายในการพัฒนาผลงานนวัตกรรมสู่รอบชิงชนะเลิศได้ทางเฟซบุ๊ก ฟอร์ด กบนอกกะลา และสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน – PDA